แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลุมส้วมอันเป็นหลุมหรือบ่อสำหรับรับน้ำโสโครกจากห้องน้ำและส้วมที่จำเลยทำขึ้นอยู่ในระยะ2เมตรจากแนวเขตที่ดินของโจทก์ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1342วรรคหนึ่งโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนหรือกลบถังส้วมและหลุมรับน้ำโสโครกนั้นได้แต่ไม่อาจจะบังคับให้รื้อถอนห้องน้ำได้เพราะการปลูกสร้างห้องน้ำมิได้ขัดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา1342ดังกล่าวและขณะฟ้องคดีอาคารที่จำเลยปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จยังไม่มีผู้ใดใช้ห้องน้ำและส้วมดังกล่าวโจทก์จึงไม่เสียหายในส่วนนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันรื้อถอนอาคารเฉพาะส่วนที่ปลูกสร้างคร่อมทางภารจำยอมในที่ดินของจำเลยโฉนดเลขที่11175 และ 11177 รวมทั้งรื้อถอนประตูรั้วเหล็กที่ปิดกั้นทางภารจำยอมด้านทิศเหนือและทิศใต้ความกว้าง 3 เมตร ด้ายค่าใช้จ่ายของจำเลยทั้งสามและให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไปจดทะเบียนภารจำยอมทางพิพาทแก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรื้อถอนอาคาร5 ชั้น ที่สร้างชิดติดแนวเขตที่ดินด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ของที่ดินโจทก์รวมทั้งรื้อถอนส้วม ถังส้วม หลุมรับน้ำโสโครก และห้องน้ำในอาคารของจำเลยให้ห่างแนวเขตที่ดินของโจทก์ในระยะ 2 เมตรและให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์รวมเป็นเงิน 210,000 บาท
จำเลยทั้งสามให้การว่า การก่อสร้างส้วม ถังส้วม หลุมรับน้ำโสโครกและห้องน้ำนั้น จำเลยที่ 3 ได้ก่อสร้างโดยถูกสุขลักษณะและเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตโดยก่อสร้างไว้มิดชิดในตัวอาคารของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทั้งในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีโจทก์ยังมิได้รับความเสียหายเนื่องจากการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จไม่มีผู้คนเข้าพักอาศัยหรือใช้ส้วมตามที่โจทก์ฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินเฉพาะส่วนในโฉนดเลขที่ 11174,11175 และ 11177 ตำบลปทุมวัน อำเภอปทุมวัน กรุงเทพมหานครด้านทิศตะวันออกความกว้าง 1.25 เมตร ตั้งแต่ทิศเหนือติดซอยเจริญนิวาส ยาวตลอดไปทางทิศใต้จดถนนบรรทัดทองเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1747, 1748 และ 1749 ตำบลรองเมือง (ปทุมวัน)อำเภอปทุมวัน (สามเพ็ง) กรุงเทพมหานคร ของโจทก์ให้จำเลยที่ 1และที่ 2 ไปจดทะเบียนภารจำยอมให้โจทก์ หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและให้จำเลยที่ 1 ที่ 2รื้อถอนอาคารเฉพาะส่วนที่ปลูกสร้างคร่อมทางภารจำยอมหรือกระทำการใดให้เป็นทางเดินและรื้อถอนหรือเปิดประตูรั้วเหล็กทางทิศเหนือและทิศใต้ให้ได้ขนาดทางภารจำยอมโดยค่าใช้จ่ายของจำเลยเองและให้จำเลยที่ 3 ชำระเงินค่าเสียหายจำนวน 30,000 บาทแก่โจทก์ คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ และ จำเลย ทั้ง สาม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยทั้งสามฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า จำเลยปลูกสร้างห้องส้วมขุดหลุมส้วมห่างจากแนวเขตที่ดินโจทก์ในระยะ 2 เมตรอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1342 วรรคหนึ่ง ซึ่งโจทก์นำสืบว่าจำเลยทั้งสามปลูกสร้างส้วมและหลุมรับน้ำโสโครกกับห้องน้ำติดกับที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศใต้ทำให้น้ำโสโครกไหลซึมเข้าในเขตบ้านของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย ซึ่งตามรายงานกระบวนพิจารณาการเผชิญสืบที่พิพาทฉบับลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2533 โจทก์นำชี้ถึงห้องน้ำและห้องส้วมรวมกันอยู่ติดกับที่ดินโจทก์เป็นแอ่งส้วมชนิดชักโครกจำเลยมิได้นำสืบโต้แย้งคัดค้าน คงนำสืบแต่เพียงว่าการก่อสร้างห้องน้ำและส้วมได้ปลูกสร้างตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตและใช้สุขภัณฑ์ที่ถูกต้องตามสุขลักษณะ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าหลุมส้วมอันเป็นหลุมหรือบ่อสำหรับรับน้ำโสโครกจากห้องน้ำและส้วมอยู่ในระยะ2 เมตร จากแนวเขตที่ดินของโจทก์ อันขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 วรรคหนึ่งแล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนหรือกลบถังส้วมและหลุมรับน้ำโสโครกนั้นได้ แต่ไม่อาจจะบังคับให้รื้อถอนห้องน้ำตามที่โจทก์ขอ เพราะการปลูกสร้างห้องน้ำมิได้ขัดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 1342 ดังที่โจทก์อ้างด้วย แต่เนื่องจากขณะฟ้องคดีอาคารที่จำเลยปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จยังไม่มีผู้ใดใช้ห้องน้ำและส้วมดังกล่าว โจทก์จึงไม่เสียหายในส่วนนี้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรื้อถอนถังส้วมและหลุมรับน้ำโสโครกหรือถมหรือกลบถังส้วมและหลุมรับน้ำโสโครกที่จำเลยที่ 3 สร้างขึ้นตามฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์