แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ศาลจะสั่งตั้งผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งเป็นผู้จัดการทรัพย์ของผู้สายศูนย์นั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลเมื่อไม่ได้ร้องขอขึ้นมาก็ไม่ชอบที่ศาลจะตั้งเป็นผู้จัดการครอบครัว คนบังคับอังกฤษแต่งงานไม่จำต้องจดทะเบียนที่กงสุลหรือจำต้องปรากฏชื่อภริยาในหนังสือสำหรับตัวเองแม้ทางก
สุลจะไม่รับรอง หากเป็นเรื่องเกิดก่อนประมวลแพ่ง ฯ บรรพ 5 ก็ถืว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายได้ฎีกาอุทธรณ์สัญญาทางพระราชไมตรี
ย่อยาว
คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลขั้นต้นโดยกล่าวว่าผู้ร้องได้ไปต่างประเทศหลายปีแล้ว หายไปไม่ได้รับข่าวคราว แลไม่ปรากฏว่ายังมีชีวิตอยู่หรือถึงแก่ความตายแล้ว ผู้ร้องเป็นภริยาและบุตรีของ ม. มีสวนยางอยู่แห่งหนึ่ง จึงขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการทรัพย์ของ ม.
อ. ร้องคัดค้านว่าผู้ร้องมิใช่ภริยาและบุตรีโดยชอบด้วยกฎหมาย แลว่า ม. ได้เอาเงินของผู้ร้องไป ๔๐๐๐ บาท แล้วทำหนังสือมอบกรรมสิทธิในสวนยางรายนี้ให้แก่ผู้ค้านแล้วจึงขอให้ยกคำร้อง
ศาลขั้นต้นเห็นว่าผู้ร้องแลผู้ค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์นี้ จึงมีคำสั่งให้ตั้งผู้ร้องแลผู้ค้านเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ ม.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ค้านหาได้ร้องขอเข้าเป็นผู้จัดการแต่อย่างใดไม่ จึงพิพากษาแก้ให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการทรัพย์ของ ม. แต่ผู้เดียว
อ. ผู้ค้านฎีกาว่า ตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๕๓ ผู้ค้านมีส่วนได้เสียจึงมีสิทธิ จะเข้า จัดการทรัพย์ของ ม. ผู้ค้านจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอเข้าไปเป็นผู้จัดการทรัพย์รายนี้อีก แลว่าผู้ร้องกับ ม. ไม่ใช่สามภรรยากัน โดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ว่า ม. เป็นคนในบังคับอังกฤษไม่ยอมรับรองว่าเป็นความจริง ก็ไม่มีกฎหมายบัง่คับอังกฤษจำต้องลงชื่อภรรยาในทะเบียนกงสุล หรือในหนังสือสำหรับตัวของตนเอง ทั้งการแต่งงานก็เกิดก่อนใช้ประมวลแพ่ง ไ ม. ๑๔๔๙ จึงไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ แลเห็นว่าตาม ม. ๕๓ ศาลยอมมีอำนาจใช้ดุลยพินิจตั้งให้ผู้หนี่งผู้ใดเป็นผู้จัดการทรัพย์แต่ผู้ค้านไม่ได้ร้องขอเป็นผู้จัดการ แต่ได้แสดงเจตนาแย่งกรรมสิทธิ โดยไม่มีกรรมสิทธิตามกฎหมาย ฉะนั้นผู้ค้านจึงไม่ชอบที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นจัดการทรัพย์ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์