คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6575/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับอนุญาตให้จัดสรรที่ดินหลังวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่286มีผลใช้บังคับแล้วจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามบทกฎหมายดังกล่าวเมื่อทางพิพาทเป็นสาธารณูปโภคที่จำเลยก่อสร้างขึ้นภายในโครงการจัดสรรที่จำเลยได้รับอนุญาตจึงต้องตกอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรทุกแปลงตามข้อ30วรรคแรกแห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวแม้ทางพิพาทมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า ถนนสาธารณูปโภคตามฟ้องตกเป็นทางภารจำยอม ให้จำเลยไปจดทะเบียนภารจำยอม หากไม่ยอมปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนและให้จำเลยรื้อรั้วสังกะสีและสิ่งกีดขวางออกไป ห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการกีดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์อีกต่อไป
จำเลยให้การว่า ถนนพิพาทมิใช่ทางภารจำยอม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ถนนสาธารณูปโภคตามฟ้อง ตกเป็นทางภารจำยอม และบังคับตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ข้างต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องอ้างว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน2525 จำเลยได้ยื่นคำขออนุญาตจัดสรรที่ดินโฉนดเลขที่ 1698ตำบลสายไหม เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ต่อคณะกรรมการควบคุมการจัดสรรที่ดินและได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินแปลงดังกล่าวจากข้ออ้างของโจทก์ดังกล่าวแม้จะไม่ได้ความว่าจำเลยได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินเมื่อใดก็ตาม แต่จำเลยให้การรับว่าเป็นผู้ขอจัดสรรที่ดินและได้รับอนุญาตให้จัดสรรแล้ว ดังนี้ จึงฟังได้ว่าจำเลยจะต้องได้รับอนุญาตให้จัดสรรที่ดินหลังวันที่ 28 เมษายน 2525อย่างแน่นอน และเป็นเวลาภายหลังที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2515 มีผลบังคับใช้แล้วจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้โจทก์ยังฟ้องอ้างอีกว่า อาคารหลังเลขที่ 26/328 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 127998 ที่โจทก์ซื้อจากจำเลยอยู่ติดกับทางพิพาทอันเป็นสาธารณูปโภคภายในโครงการที่จัดสรร จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าวของโจทก์ จึงฟังได้ว่าทางพิพาทเป็นสาธารณูปโภคที่จำเลยก่อสร้างขึ้นภายในโครงการจัดสรรที่จำเลยได้รับอนุญาต ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ข้อ 30 วรรคแรกได้ระบุไว้ว่า สาธารณูปโภคซึ่งผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต เช่นถนน สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ให้ถือว่าอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรร และให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินหรือผู้รับโอนกรรมสิทธิ์คนต่อไปที่จะบำรุงรักษากิจการดังกล่าวให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นโดยตลอดไป และจะกระทำการใด ๆอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้เมื่อทางพิพาทเป็นสาธารณูปโภคที่ก่อสร้างขึ้นภายในโครงการจัดสรรที่จำเลยได้รับอนุญาต จึงต้องตกอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรทุกแปลง ตามนัยแห่งประกาศของคณะปฏิวัติข้อดังกล่าวแม้ทางพิพาทซึ่งมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่จำเลยได้จดทะเบียนเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินแปลงอื่นด้วยก็ตามก็ย่อมไม่เป็นผลให้ทางพิพาทซึ่งตกเป็นทางภารจำยอมตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวแล้วเปลี่ยนสภาพไปได้
พิพากษายืน

Share