คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีคนร้ายลักทรัพย์ของโรงเรียนอยู่ในความครอบครองของครูใหญ่ไป ครูใหญ่ให้จำเลยช่วยสืบหาและไถ่ทรัพย์ของกลางคืน จำเลยก็ไปไถ่มาให้ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด จึงไม่มีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายลักเครื่องโรเนียวและลูกตุ้มทองเหลืองสำหรับช่างทองของโรงเรียนบ้านโนนบากมิตรภาพที่ ๘๓ ซึ่งอยู่ในความดูแลครอบครองรักษาของนายประวัติครูใหญ่ ต่อมาจำเลยเรียกเอาเงินค่าไถ่จากผู้เสียหาย แล้วนำเครื่องโรเนียวมาคืน โดยจำเลยกับพวกร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔, ๓๓๕, ๓๕๗, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗ จำคุก ๓ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๒๘ กับ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๑๗ ได้มีคนร้ายลักเอาเครื่องโรเนียวและลูกตุ้มทองเหลืองสำหรับชั่งทองของโรงเรียนบ้านโนนบากมิตรภาพที่ ๘๓ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายประวัติ พระเมเด ครูใหญ่ไป ต่อมานายประวัติให้จำเลยช่วยสืบหาเครื่องโรเนียว ถ้าสืบได้ให้ช่วยไถ่คืนด้วย วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๑๗ นายประวัติมอบเงินค่าไถ่ให้จำเลย ครั้นวันที่ ๑๕ เดือนเดียวกัน จำเลยนำเครื่องโรเนียวของกลางมาคืนให้ผู้เสียหาย
แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่นายประวัติให้จำเลยไปช่วยสืบหาและไถ่ทรัพย์ของกลางคืน จำเลยก็ไปไถ่มาให้ ดังนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๗
พิพากษายืน

Share