คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เงินมัดจำกับเงินเบี้ยปรับมีลักษณะคนละอย่างไม่เหมือนกันมัดจำจึงไม่มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ ศาลจึงไม่มีอำนาจลดเงินมัดจำลงได้อย่างเบี้ยปรับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 93,477 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 88,500 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์และจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันจริง และในวันทำสัญญาโจทก์ได้มอบเงินมัดจำค่าซื้อที่ดินให้แก่จำเลยก่อนจำนวน 90,000 บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 725,366 บาท โจทก์สัญญาว่าจะชำระให้แก่จำเลยในเดือนมกราคม 2533พร้อมทั้งจะได้จดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองที่ดินให้แก่โจทก์ต่อไปสัญญาที่โจทก์ทำกับจำเลยนั้นจึงสมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยคืนเงิน 53,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังยุติตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2วินิจฉัยมาว่าโจทก์ทำสัญญาซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์จำนวน 1 แปลง จากจำเลยในราคา 815,366 บาท โจทก์ได้วางมัดจำให้จำเลยไว้ 90,000 บาท ต่อมาโจทก์ผิดสัญญาไม่ซื้อที่ดินจากจำเลยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยมีว่า ศาลมีอำนาจลดเงินมัดจำลงเป็นจำนวนพอสมควรโดยถือว่าเงินมัดจำมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้หรือไม่เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 377 เงินมัดจำเป็นเงินประกันการที่จะปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งตามมาตรา 378กำหนดไว้ว่าหากผู้วางมัดจำผิดสัญญาก็ให้ริบ หากผู้รับมัดจำผิดสัญญาก็ให้ส่งคืน เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นทั้งนี้มิได้ถือเอาความเสียหายของผู้รับมัดจำมาเป็นหลักประกอบการพิจารณาในการริบมัดจำ ส่วนเงินเบี้ยปรับนั้นตามมาตรา 379เป็นจำนวนค่าเสียหายที่คู่สัญญากำหนดกันไว้ล่วงหน้าในเมื่อมีการไม่ชำระหนี้ หรือชำระหนี้ไม่ถูกต้องตามสัญญาและในการริบเบี้ยปรับ มาตรา 383 ก็ให้ถือเอาทางได้ทางเสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายเป็นหลักในการพิจารณาว่าจะริบเบี้ยปรับทั้งหมดหรือจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควร จึงเห็นได้ว่าเงินมัดจำกับเงินเบี้ยปรับมีลักษณะคนละอย่างที่ไม่เหมือนกัน มัดจำจึงไม่มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับศาลจึงไม่มีอำนาจลดเงินมัดจำลงได้อย่างเบี้ยปรับและเมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ซื้อที่ดินจากจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิริบเงินมัดจำทั้งหมด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาลดมัดจำให้โจทก์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับ เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์

Share