แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การโดยชัดแจ้งว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเนื่องจากโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการฝากทรัพย์ภายใน6เดือนนับแต่วันสิ้นสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา671ดังนั้นคดีจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา671หรือไม่เท่านั้นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ฟ้องจำเลยผู้รับจ้างภายในกำหนด1ปีคดีจึงขาดอายุความตามมาตรา601จึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากคำให้การของจำเลยทั้งสามไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามสัญญาการเลี้ยงการเลี้ยงไก่ระบุให้โจทก์มอบลูกไก่อาหารยาและวัคซีนสำหรับไก่ให้จำเลยเลี้ยงเป็นไก่ใหญ่เมื่อลูกไก่เจริญเติบโตเป็นไก่ใหญ่แล้วจำเลยต้องส่งมอบคืนแก่โจทก์โดยโจทก์จะคิดมูลค่าไก่ใหญ่ทั้งหมดแล้วหักด้วยมูลค่าลูกไก่ร่วมกับอาหารยาและวัคซีนซึ่งจำเลยได้ใช้ไปคงเหลือยอดสุทธิเท่าใดให้ถือเป็นประโยชน์ของจำเลยสัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยดังกล่าวมิใช่เป็นการตกลงรับจะทำการงานสิ่งหนึ่งจนสำเร็จและจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้นหากแต่เป็นสัญญาร่วมกันประกอบการโดยแบ่งผลประโยชน์กันอันมีจำนวนไม่แน่นอนจึงมิใช่สัญญาจ้างทำของหากแต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งมีผลใช้บังคับได้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาดังกล่าวมิได้มีกฎหมายบัญญัติถึงอายุความไว้เฉพาะจึงมีอายุความ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/30
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2535 จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเลี้ยงไก่แก่โจทก์ โดยโจทก์จะส่งมอบลูกไก่ อาหารไก่ ยาและวัคซีนให้แก่จำเลยที่ 1 นำไปเลี้ยงให้เป็นไก่ใหญ่ แล้วส่งมอบคืนให้แก่โจทก์ กำหนดระยะเวลาการเลี้ยงประมาณ 48 ถึง 54 วัน น้ำหนักเฉลี่ยต่อตัว 1.6 ถึง 2.5 กิโลกรัม ในเวลา 1 ปี ไม่เกิน 5 รุ่นโจทก์จะกำหนดราคาลูกไก่อาหารไก่ ยา และวัคซีนไว้สำหรับคิดผลประโยชน์กันเมื่อไก่เจริญเติบโตตามกำหนด และโจทก์ต้องการจับไก่เมื่อใด จำเลยที่ 1 จะต้องจับไก่ให้แก่โจทก์ โจทก์จะนับจำนวนหรือชั่งน้ำหนักไก่ทั้งหมดหน้าฟาร์มของจำเลยที่ 1 หรือหน้าโรงงานของโจทก์ เมื่อได้น้ำหนักสุทธิ โจทก์จะกำหนดราคาให้ตามความเหมาะสมได้เป็นเงินจำนวนเท่าใดให้เอาเป็นตัวตั้ง และเอาราคาลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีน ทั้งหมดเป็นตัวลบ เหลือยอดสุทธิเท่าใดถือเป็นผลประโยชน์ตอบแทนของจำเลยที่ 1 แต่ถ้าไก่ขาดหายไปจำนวนเท่าใดจำเลยที่ 1 จะต้องชดใช้ให้แก่โจทก์ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหนี้หรือวันจับไก่ใหญ่ ปรากฎตามสำเนาสัญญาการเลี้ยงไก่ท้ายฟ้อง เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันโดยตกลงว่า หากจำเลยที่ 1ผิดสัญญาจำเลยที่ 2 และที่ 3 จะร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์หลังจากทำสัญญาโจทก์ได้ส่งมอบลูกไก่ อาหารไก่ ยาและวัคซีนให้แก่จำเลยที่ 1 นำไปเลี้ยงเป็นไก่ใหญ่หลายรุ่น แต่เมื่อนำราคาลูกไก่อาหารไก่ ยา และวัคซีนหักออกจากราคาไก่ใหญ่แล้ว ปรากฎว่าจำเลยที่ 1เป็นหนี้โจทก์ในการเลี้ยงไก่ 3 รุ่น รวมเป็นเงินที่จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์ทั้งสิ้น 225,033.57 บาท ซึ่งจำเลยที่ 1 ต้องชำระเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2536แต่เมื่อครบกำหนดจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ โจทก์จึงขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2536 ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 2 ปี เศษ แต่โจทก์ขอคิดเพียง 2 ปี เป็นเงิน 33,755 บาท รวมต้นเงินและดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องเป็นเงิน 258,788 บาท ก่อนฟ้องคดีนี้ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้แล้ว แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 225,033.57 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เนื่องจากโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2536 อันเป็นวันสิ้นสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 จำเลยทั้งสามจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์ข้อแรกว่า จำเลยทั้งสามให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671แต่ศาลชั้นต้นยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601มาเป็นเหตุยกฟ้องโดยจำเลยทั้งสามไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 นั้นเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสามให้การโดยชัดแจ้งว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเนื่องจากโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการฝากทรัพย์ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2536อันเป็นวันสิ้นสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671ดังนั้น คดีจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 671 หรือไม่เท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างภายในกำหนด 1 ปี คดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 จึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากคำให้การของจำเลยทั้งสาม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเห็นว่าตามสัญญาการเลี้ยงไก่ท้ายฟ้องระบุให้โจทก์มอบลูกไก่ อาหาร ยา และวัคซีนสำหรับไก่ให้จำเลยที่ 1 เลี้ยงเป็นไก่ใหญ่ เมื่อลูกไก่เจริญเติบโตเป็นไก่ใหญ่แล้ว จำเลยที่ 1 ต้องส่งมอบคืนแก่โจทก์โดยโจทก์จะคิดมูลค่าไก่ใหญ่ทั้งหมดแล้วหักด้วยมูลค่าไก่ร่วมกับอาหารยา และวัคซีนซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ใช้ไป คงเหลือยอดสุทธิเท่าใดให้ถือเป็นประโยชน์ของจำเลยที่ 1 สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1ดังกล่าว มิใช่เป็นการตกลงรับจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จและจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น หากแต่เป็นสัญญาร่วมกันประกอบการโดยแบ่งผลประโยชน์กันอันมีจำนวนไม่แน่นอนจึงมิใช่สัญญาจ้างทำของดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย หากแต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งมีผลใช้บังคับได้ สิทธิเรียกร้องตามสัญญาดังกล่าวมิได้มีกฎหมายบัญญัติถึงอายุความไว้เฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่