คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6526/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การปฏิเสธเรื่องการซื้อขายกับโจทก์โดยอ้างเหตุว่าไม่เคยมีการสั่งซื้อหรือรับวัสดุก่อสร้างจากโจทก์เลย ทั้งยังให้การต่อไปอีกว่าจำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์มาก่อนโจทก์นำความเท็จมาฟ้อง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้องคำให้การของจำเลยดังกล่าวได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้น รวมทั้งเหตุแห่งการนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงนำสืบได้ว่า จำเลยได้ว่าจ้าง ล. รับเหมาก่อสร้างอาคารพาณิชย์ซึ่งรวมทั้งค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างด้วยที่ ล ติดต่อซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นการนำสืบในรายละเอียดเพื่อสนับสนุนข้อปฏิเสธของตน ไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันสั่งซื้อและรับวัสดุก่อสร้างไปจากโจทก์หลายครั้ง แล้วยังค้างชำระราคาเป็นเงิน 343,429 บาท โจทก์ทวงถามให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระราคาวัสดุก่อสร้างที่ค้างชำระดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว จำเลยทั้งสามไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระราคาพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2539 เป็นต้นไป ซึ่งคิดถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ย 2,611 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 346,040 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 343,429 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสามจะชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ชำระเงินจำนวน 343,429 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2539เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และ ที่ 2
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 3 สั่งซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ ตามรายการใบส่งของเอกสารหมาย จ.13 และ จ.14และค้างชำระเป็นเงินจำนวน 343,429 บาท ต้องรับผิดในยอดหนี้ตามที่โจทก์ฟ้องตามฎีกาของโจทก์
ปัญหาแรกที่ต้องวินิจฉัยมีว่า คำให้การของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธจึงไม่มีประเด็นและจำเลยที่ 1 และที่ 2 นำสืบนอกประเด็นจริงหรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 1และที่ 2 ให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ หรือรับวัสดุก่อสร้างตามฟ้องจากโจทก์แต่อย่างใด คำให้การดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยทั้งสองปฏิเสธเรื่องการซื้อขายกับโจทก์โดยอ้างเหตุว่าไม่เคยมีการสั่งซื้อหรือรับวัสดุก่อสร้างจากโจทก์เลยอีกทั้งยังให้การต่อไปอีกว่าจำเลยทั้งสองไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์มาก่อนโจทก์นำความเท็จมาฟ้องจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้องคำให้การของจำเลยทั้งสองดังกล่าวถือว่าได้แสดงโดยชัดแจ้งว่า จำเลยทั้งสองปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองส่วนที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำสืบว่า จำเลยที่ 1 ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 3 รับเหมาก่อสร้างอาคารพาณิชย์ซึ่งรวมทั้งค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างด้วย ที่จำเลยที่ 3 ติดต่อซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์ จำเลยที่ 1และที่ 2ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยนั้นก็เป็นการนำสืบในรายละเอียดเพื่อสนับสนุนข้อปฏิเสธของตน จึงไม่ถือว่าเป็นการนำสืบนอกประเด็น
พิพากษายืน

Share