คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มียาสูบตั้งแต่สองกิโลกรัมไว้ในครอบครอง โดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ม. 36 และ 40
โจทก์ฟ้องบรรยายความผิดอันต้องด้วยบทห้ามตามกฎหมายแม้มิได้อ้างบทห้ามมาในฟ้องแต่อ้างบทกำหนดโทษมา ก็ลงโทษได้
โจทก์หาจำเลยรับบางข้อปฏิเสธบางข้อ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยานโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิด ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธแต่มิได้ขอสืบพะยานดังนี้ ศาลฎีกาย่อมพิจารณาฉะเพาะตามฟ้องและคำให้การ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจจะซื้อยาสูบน้ำหนัก ๒๑๗๘ กรัม ราคม ๔๓๘ บาท โดยรู้อยู่ว่าเป็นสินค้าต่างประเทศ ซึ่งจะต้องเสียภาษีศุลกากรนำเข้า และมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบโดยมิได้ผ่านด่านศุลกากรและมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามกฎหมาย โดยจำเลยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีศุลากากรและปิดแสตมป์ยาสูบ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.๒๗ฯ และ พ.ร.บ.ยาสูบ ๒๔๘๖ ม. ๓๐, ๓๑, ๓๕, ๔๐, ๔๒ และให้ริบของกลาง
จำเลยให้การว่า ได้ซื้อบุหรี่ไม่ปิดแสตมป์ยาสูบจริงแต่ใครนำเข้ามา รับอนุญาตหรือไม่ ผ่านด่านศุลกากรหรือไม่ไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นงดสืบพะยานแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ยาสูบ ม.๓๖ ฐานมียาสูบไว้ในครอบครองไม่ปิดอากรแสตมป์แต่ไม่ผิด พ.ร.บ.ศุลกากรและ พ.ร.บ.ยาสูบ ม.๓๐, ๓๑ เพราะกฎหมายดังกล่าวนี้ลงโทษ สำหรับผู้นำยาสูบเข้ามาในราชอาณาจักร์ ของกลางไม่ควรริบ
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่าจำเลยมียาสูบไว้ในครอบครองโดยไม่ปิดแสตมป์ยาสูบตาม ม.๓๖ แต่โจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจึงลงโทษไม่ได้ ส่วนข้ออื่นเห็นชอบตามศาลขั้นต้น จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามฟ้อง แต่มิได้ขอสืบพะยานศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อโจทก์ไม่สืบพะยานจึงฟังได้เท่าที่จำเลยรับว่าจำเลมียาสูบไว้ในครอบครองโดยมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบอันต้องด้วยข้อห้ามตาม พ.ร.บ.ยาสูบ ม.๓๖ ซึ่ง ม.๔๐ บัญญัติว่าผู้ใดฝ่าฝืน ม.๓๖ มีความผิดและกำหนดโทษไว้ เรื่องนี้โจทก์อ้าง ม.๔๐ แล้ว จึงลงโทษได้ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น

Share