คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตำรวจมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิด ย่อมมีหน้าที่รักษาของกลางที่ยึดได้ ก่อนที่จะนำส่งพนักงานสอบสวนด้วย ถ้ายักยอกของกลางนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวก็ต้องมีความผิด
(อ้างฎีกาที่ 282/2485)

ย่อยาว

โจทก์ต้องหาว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้จับนายเซ่งหาว่ามีปืน+ไม่ได้รับอนุญาต และได้ยึดปืนไว้ จำเลยมีหน้าที่ปกครองรักษาปืนรายนี้ระหว่างนำส่งสถานีตำรวจ ได้บังอาจมีเจตนาทุจริตยักยอกปืนกระบอกนี้ไปเป็นของตนโดยสับเปลี่ยนเอาปืนกระบอกอื่นส่งสถานีตำรวจเป็นของกลางแทน ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๓๑ ที่โจทก์อ้างนั้น หาใช่หมายถึงการปกครองรักษาทรัพย์อย่างกรณีที่จำเลยกระทำอยู่นั้นไม่ จำเลยมิได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นกิจจะลักษณะอย่างใดในการปกครองรักษาทรัพย์ของกลางที่จับได้ จึงไม่มีทางลงโทษจำเลยตามกฎหมายที่โจทก์ขอพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน มีหน้าที่จับกุมปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายจำเลยเป็นตำรวจมีหน้าที่จับกุมก็ย่อมมีหน้าที่รักษาปืนแหนบและกระสุนปืนของกลางรายนี้ ถ้าจำเลยยักยอกไปก็ย่อมมีความผิดตามกฎหมาย ตามนับคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๒/๒๔๘๕ พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่

Share