คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+อัตราฉะบับที่ 2 หมู่ 7 หลักเกณฑ์การประเมินภาษีการค้าประเภทโรงสีนั้นกฎหมายมุ่งประสงค์ให้คำนวณ+กำลังเครื่องจักร์ที่ทำการข้างออกมาได้เป็นจำนวนเกวียนอย่างสูงสุดใน 24 ชั่วโมงตามที่เป็นจริง
พะยานผู้ชำนาญการพิเศษข้อเท็จจริงที่ว่าโรงสีรายพิพาทมีกำลังทำการสีข้าวออกเป็นจำนวนเกวียนภายใน 24 ชั่วโมงได้เป็นจำนวนเท่าไรนั้นพะยานสามัญผู้รู้เห็นก็ใช้ได้ ไม่จำต้องฟังผู้ชำนาญการพิเศษเสมอไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินค่าภาษีอากรค้าโรงสีไฟของโจทก์ซึ่งเจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บเกินไป ๒๐ บาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นต้องกันว่า พ.ร.บ.ภาษีการค้ามุ่งถึงกำลังสูงสุดของเครื่องจักร์ที่อาจสีข้าวได้ตามปกติใน ๒๔ ชั่วโมง จึงพิพากษาให้จำเลยคืนเงินค่าภาษีที่เก็บเกินไปให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อพิเคราะห์ดูพิกัดอัตราฉะบับที่ ๒ หมู่ ๗ ต่อท้าย พ.ร.บ.ภาษีการค้า ๒๔๗๕ แล้ว เห็นว่ากฎหมายมุ่งประสงค์ให้คำนวณจากกำลังเครื่องจักร์ที่ทำการสีข้างออกมาได้เป็นจำนวนเกวียนอย่างสูงสุดใน ๒๔ ชั่วโมงตามที่เป็นจริง มิใช่จะคิดคำนวณกำลังของเครื่องจักร์โดยวิธีจัดส่วนของกลไก เช่นคำนวณเป็นแรงม้า ดังจะเทียบได้กับหลักเกณฑ์การประเมินโรงเลื่อยหรืออุตสาหกรรมอย่างอื่นและการโม่หินใน พ.ร.บ.เดียวกันซึ่งกฎหายว่าไว้ชัดให้คำนวณตามกำลังสูงสุดของเครื่องจักร์คิดเป็นแรงม้าเมื่อเป็นดังนี้ต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า โจทก์นำสืบได้ความว่าโรงสีของโจทก์สีข้าวได้อย่างมาก ๑๐ เกวียนใน ๒๔ ชั่วโมง และพะยานสามัญผู้รู้เห็นย่อมมีน้ำหนักไม่มีกฎหมายห้ามว่าต้องฟังพะยานผู้ชำนาญการพิเศษเสมอไป จึงพิพากษายืนให้ยกฎีกาจำเลย

Share