แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 ใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงทำร้ายผู้เสียหายที่ 1 จำนวน2 ครั้ง ในลักษณะเลือกแทงและแทงโดยแรง ปรากฏว่าผู้เสียหายที่ 1 มีบาดแผลที่คอด้านหลังข้างขวาเหนือกระดูกไหปลาร้า ยาวประมาณครึ่งนิ้ว ลึกเข้าไปข้างในที่กระดูกสะบักข้างขวามีลมรั่วในช่องปอดข้างขวาต้องเจาะเอาลมออก แพทย์ลงความเห็นว่าถ้าร้กษาไม่ถูกต้องอาจทำให้ถึงตายได้ การกระทำของจำเลยที่ 2ถือได้ว่ามีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหายที่ 1 ให้ตาย จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288ประกอบมาตรา 80
ที่โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าหรือเป็นเพียงฐานทำร้ายร่างกายเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งจำเลยที่ 2มิได้โต้แย้งไว้ในอุทธรณ์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ประสงค์ต่อสู้ในปัญหานี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงไม่มีอำนาจวินิจฉัยนั้น คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงพยายามฆ่าผู้เสียหายที่ 2 เป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 2 ได้รับอันตรายสาหัสศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 ตามฟ้อง จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 มิได้มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายที่ 2 มีเพียงเจตนาทำร้ายเท่านั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ 2 ได้ แม้ว่าจำเลยที่ 2 จะมิได้โต้แย้งไว้ในชั้นอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ 2 ก็ตาม