คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6467/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ตายทำพินัยกรรมยกที่ดินให้แก่ผู้คัดค้าน โดยไม่มีทรัพย์มรดกอย่างอื่นอีก ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ไม่มีอำนาจที่จะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713กรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1727 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีนี้เดิมผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสาย ธนะผล ซึ่งถึงแก่ความตายโดยไม่ได้ทำพินัยกรรม หรือตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ผู้ตายมีทรัพย์มรดกคือที่ดิน 1 แปลง โฉนดเลขที่ 885 เนื่องจากมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกดังกล่าว จึงขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534 ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีพินัยกรรมของผู้ตาย
ต่อมาวันที่ 21 พฤษภาคม 2534 ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในที่ดินโฉนดเลขที่ 885 ซึ่งเป็นมรดกของผู้ตาย ทั้งนี้เพราะผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านแล้ว ขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง หลังจากนั้นวันที่ 11 ตุลาคม2536 ผู้คัดค้านยื่นคำร้องเข้ามาใหม่ว่า คดีที่ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายฟ้องผู้คัดค้านขอให้ทำลายพินัยกรรมที่ผู้ตายทำไว้ให้แก่ผู้คัดค้านนั้นถึงที่สุด ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 509/2534 ของศาลชั้นต้น โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินมรดกดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านไว้ก่อนแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีผู้จัดการมรดกอีกต่อไป คำร้องของผู้ร้องขอจัดการมรดกเป็นความเท็จ ทำให้ศาลมีคำสั่งไปโดยผิดหลงขอให้มีคำสั่งถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกและยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านว่า แม้คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 509/2534 ของศาลชั้นต้นจะถึงที่สุดแล้วก็ตาม แต่ผู้คัดค้านซึ่งอ้างสิทธิตามพินัยกรรมก็ไม่เคยเรียกให้ผู้ร้องจัดการตามพินัยกรรมแต่อย่างใด จึงยังฟังไม่ได้ว่าผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ และไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้เสนอให้ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก ดังนั้นการที่ผู้ร้องคงเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปจึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย สิทธิเรียกร้องตามข้อกำหนดพินัยกรรมของผู้คัดค้านขาดอายุความ ผู้คัดค้านจะอ้างสิทธิตามพินัยกรรมอีกไม่ได้ ทรัพย์ตามพินัยกรรมย่อมตกทอดทายาท จึงต้องมีผู้จัดการมรดกต่อไป ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการของผู้ตายชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามที่คู่ความรับและไม่โต้เถียงกันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินโฉนดเลขที่ 885 ตำบลแหลมงอบอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ให้แก่ผู้คัดค้าน และตามคำร้องของผู้ร้องที่จะขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายคงระบุเพียงว่า ผู้ตายมีทรัพย์มรดกคือที่ดินตามโฉนดดังกล่าวไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอย่างอื่นอีก แม้แต่ในคำร้องคัดค้านของผู้ร้องที่คัดค้านคำร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกของผู้ตายก็ไม่ได้ระบุว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอย่างอื่น ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายนั้น ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายจึงไม่มีอำนาจที่จะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ดังนี้ กรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะถอนผู้จัดการมรดกตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวมาตรา 1727 วรรคหนึ่ง คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจึงชอบด้วยกฎหมาย”
พิพากษายืน

Share