คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6467/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 2-10ที่ยังชำระค่าหุ้นไม่ครบจำนวนมูลค่าหุ้น ให้ร่วมรับผิดชำระค่าภาษีที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระอยู่แก่โจทก์นั้น มิใช่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากร ตามมาตรา 7(2) แห่งพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2-10 ต่อศาลภาษีอากรกลาง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดเป็นหนี้ค่าภาษีอากรโจทก์ จำเลยที่ 2-10 เป็นผู้ถือหุ้นที่ยังชำระเงินค่าหุ้นไม่ครบจำนวน โจทก์ขอใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1เพื่อป้องกันสิทธิของโจทก์ในหนี้ค่าภาษีอากร จึงขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ชำระค่าภาษีอากรแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 2-10 ร่วมรับผิดเท่าจำนวนที่ยังค้างชำระค่าหุ้นแก่จำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 7 ที่ 8 ที่ 9 ที่ 10 ให้การว่าโจทก์ไม่อาจใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 เพราะจำเลยที่ 1ยังมีทรัพย์สินเพียงพอชำระหนี้และโจทก์มิได้บอกกล่าวล่วงหน้าให้ใช้ค่าหุ้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ค่าภาษีอากรแก่โจทก์ ยกฟ้องจำเลยที่ 2-10
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2-10 ต่อศาลภาษีอากรกลางหรือไม่ เห็นว่าการที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ฟ้องจำเลยที่ 2-10ที่ยังชำระค่าหุ้นไม่ครบจำนวนมูลค่าหุ้น ให้ร่วมรับผิดชำระค่าภาษีที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระอยู่แก่โจทก์นั้น มิใช่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากรตามมาตรา 7(2) แห่งพระราชบัญญัติ ตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2-10 ต่อศาลภาษีอากรกลางอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share