คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฎีกาของโจทก์ทั้งเก้ามิได้กล่าวคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค3ว่าวินิจฉัยข้อเท็จจริงข้อใดตอนใดผิดถูกอย่างใดเพียงแต่กล่าวทบทวนคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์อุทธรณ์ภาค3และเนื้อหาสาระในฎีกาแทบจะเหมือนกับที่กล่าวไว้ในอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยไปรับรองแนวเขตที่ดินโฉนดเลขที่ 1385ตำบลสวนกล้วย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หากไม่ไป ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งเก้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ทั้งเก้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ทั้งเก้าฟ้องโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า จำเลยไม่ยินยอมลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินให้ อ้างว่าโจทก์ทั้งเก้ารุกล้ำที่ดิน ทำให้โจทก์ทั้งเก้าไม่สามารถแบ่งแยกที่ดินได้ ขอให้บังคับจำเลยไปรับรองแนวเขตที่ดิน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งเก้ามิได้นำสืบว่า โจทก์ทั้งเก้าไม่ได้รังวัดรุกล้ำที่ดินของจำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นพ้องด้วยในผลพิพากษายืนฎีกาของโจทก์ทั้งเก้ามิได้กล่าวคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ว่าวินิจฉัยข้อเท็จจริงข้อใดตอนใดผิดถูกอย่างใดเพียงแต่กล่าวทบทวนคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 3 และเนื้อหาสาระในฎีกาแทบจะเหมือนกับกล่าวไว้ในอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายก ฎีกา ของ โจทก์ ทั้ง เก้า

Share