คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พยานทุกปากที่โจทก์นำสืบไม่มีผู้ใดยืนยันได้ว่าจำเลยเกิดปีใดแน่ คงมีแต่ จ. ม. และ ท. พยานโจทก์เบิกความอ้างถึงทะเบียนนักเรียนของจำเลยว่า ตามเอกสารดังกล่าวปีเกิดของจำเลยเป็น พ.ศ. 2470 แต่ได้มีการแก้ไขเป็น พ.ศ. 2476 โดยพยานทั้งสามไม่มีผู้ใดทราบว่าจำเลยเกิดปีใด พยานโจทก์เป็นที่สงสัยไม่แน่ชัดว่า จำเลยเกิดปีใด ฟังไม่ได้ว่าข้อความที่จำเลยแจ้งว่าจำเลยเกิดปีพ.ศ. 2476 เป็นเท็จ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 137,264, 265, 267, 268 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137, 267 และ 268 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษตามมาตรา 268 กระทงเดียว ให้จำคุก 1 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนดสองปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยได้ยื่นคำร้องแก้ปีเกิดของจำเลยจาก พ.ศ. 2472เป็น พ.ศ. 2476 โดยนางประเพ็ญเป็นของผู้เขียนคำร้องให้จำเลยลงชื่อและนายประเวศปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่อนุญาตให้แก้ได้ มีปัญหาต้องพิจารณาในชั้นฎีกาตามที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยได้ใช้ภาพถ่ายใบแทนในสำคัญทหารกองเกินที่ชำรุดสูญหายเอกสารหมาย จ.4ต่านายอำเภอศรีเชียงใหม่ประกอบคำร้องขอแก้ไขปีเกิดของจำเลยหรือไม่ เอกสารหมาย จ.4 เป็นเอกสารปลอมหรือไม่และข้อความที่จำเลยแจ้งเกิด พ.ศ. 2476 เป็นความเท็จโดยความจริงจำเลยเกิด พ.ศ. 2472หรือไม่ สำหรับปัญหาข้อแรกว่าจำเลยได้ใช้ภาพถ่ายใบแทนใบสำคัญทหารกองเกินที่ชำรุดสูญหายเอกสารหมาย จ.4 ต่อนายอำเภอศรีเชียงใหม่ประกอบคำร้องขอแก้ไขปีเกิดของจำเลยหรือไม่นั้น นางประเพ็ญพยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยยื่นคำร้องขอเปลี่ยนปีเกิดพร้อมด้วยภาพถ่ายใบแทนส.ด.9 ฉบับที่แทนต้นฉบับที่ชำรุดสูญหาย เอกสารหมาย จ.4 และนายไพบูลย์นายอำเภอศรีเชียงใหม่ พยานโจทก์อีกคนหนึ่งเบิกความว่าตามหลักผู้ยื่นเอกสารต้องเป็นเอกสารที่มีผู้รับรอง ผู้รับรองต้องเป็นข้าราชการผู้รับเอกสารแล้วแต่ว่าเป็นใครหากมีอำนาจลงความเห็นได้ แล้วเสนอไปยังผู้มีอำนาจอนุมัติจะไม่รับสำเนาเอกสารที่ไม่มีการรับรอง และจะไม่ดำเนินการให้ เห็นว่า เรื่องการแก้ไขปีเกิดของจำเลยได้รับการพิจารณาดำเนินการโดยเรียบร้อย ผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่อนุญาตให้แก้ได้เช่นนี้ สำเนาเอกสารประกอบคำร้องขอแก้ไขเปีเกิดต้องเป็นเอกสารที่ยื่นต่อนางประเพ็ญถูกต้องตามหลักระเบียบแบบแผนแล้ว คือ มีผู้รับรองถูกต้อง แต่สำเนาภาพถ่ายในแทนใบ ส.ด.9 ฉบับที่แทนต้นฉบับที่ชำรุดสูญหาย เอกสารหมายจ.4 หาได้มีผู้รับรองความถูกต้องแต่อย่างใดไม่ พยานโจทก์ดังกล่าวจึงเจือสมตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าภาพถ่ายใบแทนใบ ส.ด.9 ฉบับที่แทนต้นฉบับที่ชำรุดสูญหาย เอกสารหมาย จ.4 นั้น จำเลยมิได้ยื่นประกอบคำร้องขอแก้ไขปีเกิดของจำเลย ฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้เอกสารดังกล่าวจำเลยจึงไม่มีความผิดในฐานใชเอกสารปลอมโดยไม่ต้องวินิจฉัยว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
ส่วนปัญหาที่ว่าข้อความที่จำเลยแจ้งว่าจำเลยเกิด พ.ศ. 2476มีความเท็จโดยความจริงจำเลยเกิด พ.ศ. 2472 หรือไม่นั้น พยานโจทก์ทุกปากที่โจทก์นำสืบไม่มีผู้ใดยืนยันได้ว่าจำเลยเกิดปีใดแน่ คงมีแต่นายจันทร์ สังขมณี ครูใหญ่โรงเรียนสัมพันธมิตรวิทยา พยานโจทก์เบิกความว่า ตามทะเบียนนักเรียนของจำเลยปีเกิดของจำเลยเป็นพ.ศ. 2470 แต่ตามทะเบียนดังกล่าวมีการแก้ปีเกิดเป็น 2476 ส่วนนายมูญ แจ่มแจ้ง ครูโรงเรียนสัมพันธมิตรวิทยา พยานโจทก์อีกคนหนึ่งเบิกความว่า เคยเห็นทะเบียนนักเรียนของโรงเรียนหนองตาดระบุว่าจำเลยเกิด พ.ศ. 2476 กับนายเที่ยง จ่าพิมาย หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอพิมาย พยานโจทก์อีกคนหนึ่งที่เบิกความถึงปีเกิดของจำเลยก็คงเบิกความเบิกความถึงทะเบียนนักเรียนฉบับเดียวกัน พยานโจทก์ทั้งสามเบิกความอ้างถึงเอกสารฉบับเดียวกัน ปีเกิดของจำเลยเป็นพ.ศ. 2470 แต่ได้มีการแก้ไขเป็น พ.ศ. 2476 โดยไม่มีผู้ใดทราบว่าจำเลยเกิดปีใด พยานโจทก์เป็นที่สงสัยไม่แน่ชัดว่าจำเลยเกิดปีใดฟังไม่ได้ว่าข้อความว่าที่จำเลยแจ้งว่าจำเลยเกิด พ.ศ. 2476 เป็นเท็จจำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้องของโจทก์”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share