คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ทำร้ายผู้ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านโดยเจตนาฆ่า และทำร้ายผู้ใหญ่บ้านที่เข้าจับจำเลยในที่ระโหฐาน ในเวลากลางคืนโดยไม่มีอำนาจ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำความผิดซึ่งหนาแต่ประการใด ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าตาม มาตรา 288, 80 และฐานทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 295 ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า ผู้กระทำการช่วยเหลือ เจ้าพนักงานตามมาตรา 289, 80 และฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตามมาตรา 296

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายมูลซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้เข้าจับจำเลยขณะบวรเป็นสามเณร ในข้อหาว่าละเมิดวินัยสงฆ์และศีลธรรมอันดีของประชาชน จำเลยกลับใช้มีดแทงนายมูลและแทงนายสอนผู้ช่วยเหลือนายมูลในการจับจำเลย มีบาดแผลสาหัสโดยเจตนาฆ่าคนทั้งสองให้ตาย แต่คนทั้งสองได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีจึงไม่ตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๐, ๒๙๖
ชั้นแรกจำเลยให้การว่า ต่อสู้ป้องกันตัว เมื่อสืบผู้เสียหายแล้ว จำเลยรับว่า ได้แทงผู้เสียกายฝ่ายเดียว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่านายสอนผู้ช่วยเหลือนายมูลผู้ใหญ่บ้านผู้ทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๓), ๘๐ ฐานหนึ่ง และผิดฐานทำร้ายร่างกายนายมูลผู้เป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๖ อีกฐานหนึ่ง แต่การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว วางโทษตาม มาตรา ๒๘๙ ซึ่งเป็นบทหนัก กำหนดโทษประหารชีวิต แต่การกระทำเป็นเพียงพยายามลดโทษลง ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๘๐, ๕๒ จำเลยอายุ ๒๐ ปี ลดโทษลงอีก ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖, ๕๓ จำเลยรับลดโทษอีกกึ่งหนึ่งตาม มาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลย ๗ ปี ๖ เดือน มีดของกลางริบ คืนจีวรของกลางแก่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นว่า จำเลยไม่ทราบว่านายมูลเป็นผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่บ้านไม่มีอำนาจจับจำเลยในเวลากลางคืนบนเรือนนางจันทร์แก้วอันเป็นที่ระโหฐาน จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่านายสอนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายนายมูลตาม มาตรา ๒๙๕ แต่การกระทำเป็นกรรมเดียวต่อเนื่องกัน จึงให้ลงโทษตาม มาตรา ๒๘๘ ซึ่งเป็นบทหนัก วางโทษ ๒ ใน ๓ ส่วน ฐานพยายามตาม มาตรา ๘๐ จำคุก ๑๒ ปี จำเลยอายุ ๒๐ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖ จำเลยรับลดกึ่งตาม มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๔ ปี
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยควรมีความผิดตาม มาตรา ๒๘๙, ๒๙๖ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษลงอีก
คดีมีปัญชั้นฎีกาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๒๙๖หรือไม่ ทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายนายสอน นายมูล ในเวลากลางคืน และเป็นการจับจำเลยในที่ระโหฐานโดยไม่มีอำนาจ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีความผิดอาญาเกิดขึ้นซึ่งหน้าแต่ประการใด ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ ชอบแล้ว
ส่วนที่จำเลยขอให้ลดโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษให้จำเลยเบาพอควรแก่กรณีแล้ว
ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share