คำสั่งคำร้องที่ 2513/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่จึงไม่รับเป็นฎีกาจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองเห็นว่า จำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบครุภัณฑ์ตรงตามสัญญาหรือไม่และข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้หยิบยกมาวินิจฉัยแตกต่างจากสำนวนคดีหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีนี้เดิมศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16597/2532 ของศาลชั้นต้น แต่คดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยคู่ความมิได้อุทธรณ์ คงขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเฉพาะคดีนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน58,500 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2530 เป็นต้นไปจนถึงวันชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 90)
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า เป็นการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247จึงให้จำเลยทั้งสองนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งคำร้อง ต่อมาเจ้าพนักงานศาลรายงานว่าจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งศาลแต่อย่างใด ศาลมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาพิจารณาสั่ง (อันดับ 93,94)

คำสั่ง
จำเลยทั้งสองไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน มาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ก่อน แม้ศาลชั้นต้นได้กำหนดเวลาให้แล้ว จำเลยทั้งสองก็ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share