แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้กู้ยืมเงินโจทก์ โจทก์กับจำเลยร่วมเล่นแชร์กัน โดยโจทก์เป็นนายวงแชร์เมื่อจำเลยประมูลแชร์ได้ โจทก์ให้จำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้ไว้เป็นหลักฐาน ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ ขอให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเล่นแชร์ เนื่องจากจำเลยไม่ชำระค่าแชร์ให้แก่โจทก์ คดีทั้งสองจึงมิได้มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าแชร์แก่โจทก์จำนวน 36,761.50บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยเล่นแชร์กับโจทก์เพียง1 มือ และผิดนัดชำระค่าแชร์เพียงงวดเดียว ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 หรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้เงินยืมตามคดีหมายเลขดำที่ 77/2529 คดีหมายเลขแดงที่121/2529 ของศาลชั้นต้น จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้กู้ยืมเงินโจทก์ สัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอม ความจริงโจทก์เป็นนายวงแชร์ดอกตาม จำเลยร่วมเล่นแชร์กับโจทก์ 1 มือ และประมูลแชร์ได้โจทก์ได้ให้จำเลยลงลายมือชื่อในสัญญากู้ไว้เป็นหลักฐานศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ พิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุด คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ 2 วงวงละ 1 มือ จำเลยให้การว่า เล่นแชร์กับโจทก์เพียงวงเดียวและมือเดียว ประเด็นแห่งคดีจึงมีว่า จำเลยเล่นแชร์กับโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดโดยอาศัยมูลหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเล่นแชร์ เนื่องจากจำเลยไม่ชำระค่าแชร์ให้แก่โจทก์ ไม่ใช่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญากู้เงิน คดีทั้งสองจึงมิได้มีประเด็นที่จะวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อนจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148”
พิพากษายืน