แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งศาลจะพึงลงโทษแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องรับสำหรับเหตุร้ายที่กระทำไป ถึงแม้โทษครั้งหลังที่สุดที่จำเลยได้รับมาจะพ้น 9 ปี 6 เดือนแล้วก็ตามการขอให้กักกันในคดีนี้หาใช่เป็นเรื่องฟ้องความซึ่งมีกำหนดเวลาที่จะฟ้องตาม ก.ม.อาญา ม.78 ไม่.
ย่อยาว
คดีนี้โจทฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒ ตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๑,๒๖๘,๒๗๐,๒๗๕,๖๓ ก.ม.อาญา แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๔ ม.๓,๖ และเพิ่มโทษกักกันจำเลยตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ ม.๔,๘,๙
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๑,๒๗๕ ซึ่งได้แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.อาญา พ.ศ.๒๔๗๔ ม.๓,๖ รวมจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๒ ปี และปรับนางกุหลาบหรือเต๊าะจำเลย ๒ ๓๐๐ บาทด้วย ลดรับสารภาพตาม ม.๕๙ กึ่ง คงจำคุกคนละ ๑ ปี และปรับจำเลยที่ ๒ ๑๕๐ บาท นายถวิตเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว ๔ ครั้ง เมื่อพ้นโทษคดีนี้แล้วให้ส่งตัวนายถวิลจำเลยไปกักกันอีก ๓ ปี ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ ม.๘,๙ ส่วนนางกุหลาบหรือเต๊าะจำเลยเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกไว้ภายใน ๓ ปี ตาม ก.ม.อาญา ม.๔๑,๔๒ ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมคงปรับสถานเดียว ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ม.๑๘
นายถวิลอุทธรณ์ขอให้ยกโทษกักกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายถวิลจำเลยฎีกา ศาลฎีการับเฉพาะปัญหาข้อ ก.ม.
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้วฎีกาข้อ ๔.ก จำเลยอ้างว่าโทษที่จำเลยได้รับมา ๔ ครั้งตามคำพิพากษานั้นโทษหลังสุดพ้นมา ๙ ปี ๖ เดือนแล้ว ขาดอายุความ ก.ม.อาญา ม.๗๘ แล้วโจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษกักกันจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าอายุความตาม ก.ม.อาญา ม.๗๘ เป็นเรื่องกำหนดเวลาที่จะฟ้องความ แต่การกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาสถานหนึ่งซึ่งศาลพึงจะลงโทษแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเพิ่มขึ้นอีกโทษหนึ่งต่างหากจากโทษอาญากันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องรับ สำหรับเหตุร้ายที่กระทำไปคือศาลพิพากษาลงอาญาแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายตาม ก.ม.ที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นเสียชั้นหนึ่งก่อนแล้วจึงพิพากษาให้เพิ่มโทษกักกันขึ้นอีกโสดหนึ่ง หาใช่เรื่องฟ้องความซึ่งมีกำหนดเวลาที่จะฟ้องตาม ก.ม.อาญา ม.๗๘ ที่อ้างมานี้ไม่ ฎีกานายถวิลจำเลยไม่มีเหตุจะแก้ไขคำพิพากษาศาลล่างเป็นอย่างอื่น พิพากษายืน.