คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6374/2552

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ถูกทวงหนี้มิได้ปฏิเสธหนี้เป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นหนี้เด็ดขาดตามกฎหมาย และต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นำสิทธิเรียกร้องดังกล่าวออกขายโดยวิธีประมูลซึ่งผู้ร้องเป็นผู้ซื้อได้ แต่การขอออกคำบังคับ การขอออกหมายบังคับคดี และการขอให้ศาลมีคำสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินของผู้ถูกทวงหนี้ไว้ชั่วคราวก่อนศาลมีคำสั่งในเรื่องนี้นั้นเป็นอำนาจเฉพาะของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่นตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 ประกอบมาตรา 22 (2) ผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากลูกหนี้จึงมีเพียงสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อพิพาทที่จะดำเนินการทวงถามและฟ้องร้องดำเนินคดีแก่ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันในทางแพ่งต่อไป แต่ไม่อาจขอเข้าสวมสิทธิอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามบทบัญญัติดังกล่าวได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2545 และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ฉบับลงวันที่ 18 สิงหาคม 2547 ให้นายประเทืองและนายสุธรรมผู้ถูกทวงหนี้รายที่ 2331 ร่วมกันชำระหนี้ค่าเสียหายตามสัญญาเช่าซื้อจำนวน 120,448.82 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2541 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นำสิทธิเรียกร้องดังกล่าวออกขายโดยวิธีประมูลซึ่งผู้ร้องเป็นผู้ซื้อได้ตามหนังสือสัญญาซื้อขายสิทธิเรียกร้องฉบับลงวันที่ 1 พฤศิจกายน 2549
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ออกคำบังคับให้นายประเทืองและนายสุธรรมผู้ถูกทวงหนี้รายที่ 2331 ชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ให้อำนาจเฉพาะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่านั้นที่จะขอให้ศาลออกคำบังคับได้ส่วนสิทธิของผู้ร้องที่มีอยู่อย่างไร ก็สามารถดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายแพ่งต่อไปได้แต่จะให้ศาลล้มละลายกลางออกคำบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่าแม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ตามคำร้องของผู้ร้องว่า ผู้ถูกทวงหนี้รายที่ 2331 มิได้ปฏิเสธหนี้เป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งถือว่าเป็นหนี้เด็ดขาดตามกฎหมายก็ตาม แต่การขอออกคำบังคับ การขอออกหมายบังคับคดี และการขอให้ศาลมีคำสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินของผู้ถูกทวงหนี้ไว้ชั่วคราวก่อนศาลมีคำสั่งในเรื่องหนี้นั้นเป็นอำนาจเฉพาะของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงิน หรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 ประกอบมาตรา 22 (2) ผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากลูกหนี้จึงมีเพียงสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าซื้อที่จะดำเนินการทวงถามและฟ้องร้องดำเนินคดีแก่นายประเทืองผู้เช่าซื้อและนายสุธรรมผู้ค้ำประกันในทางแพ่งต่อไป แต่ไม่อาจขอเข้าสวมสิทธิอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามบทบัญญัติดังกล่าวได้ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้เป็นพับ

Share