แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ป.พ.พ. มาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่ได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก กรณีต้องเป็นการรู้โดยแน่นอน มีหลักฐานยืนยัน โจทก์แจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบว่า เจ้ามรดกถึงแก่กรรมพร้อมทั้งแสดงใบมรณบัตรและมีผู้ร้องเป็นทายาท ต้องถือว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รู้ถึงการตายของเจ้ามรดกนับแต่นั้น เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ไปยังผู้ร้องในฐานะทายาทของเจ้ามรดกซึ่งเป็นระยะเวลาภายใน 1 ปีนับแต่ได้รู้หรือควรรู้ถึงการตายของลูกหนี้ซึ่งเป็นเจ้ามรดก จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง ดังนี้หนี้ยังไม่ขาดอายุความ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นนั้น ป.พ.พ. มาตรา 1024 สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามข้อความที่ได้บันทึกไว้ทุกประการ.
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2531เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ร้องในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายผดุง จันทรุเบกษา ให้ชำระเงินจำนวน 150,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องจึงได้ยื่นหนังสือขอปฏิเสธหนี้โดยแสดงเหตุผลประกอบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือยืนยันให้ผู้ร้องรับผิดเงินจำนวน 150,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2531 ผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายผดุงไม่ต้องรับผิดในหนี้จำนวนดังกล่าวเพราะนายผดุงได้ชำระเงินค่าหุ้นให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วและสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อนายผดุงซึ่งเป็นเจ้ามรดกได้ขาดอายุความ ผู้ร้องในฐานะทายาทของนายผดุงจึงไม่ต้องรับผิดขอให้ศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งยืนยันให้ชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และจำหน่ายชื่อผู้ร้องจากบัญชีลูกหนี้ด้วย
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ผู้ร้องในฐานะทายาทผู้รับมรดกยังไม่เกินกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของนายผดุง การใช้สิทธิเรียกร้องของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงยังไม่ขาดอายุความ ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ให้ผู้ร้องชำระหนี้ค่าหุ้น 150,000 บาท แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยจริงและหนี้ยังไม่ขาดอายุความจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ให้ผู้ร้องในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนายผดุงชำระเงินจำนวน 153,852.74 บาท แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน150,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันยื่นคำร้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำหน่ายชื่อผู้ร้องจากบัญชีลูกหนี้ของจำเลย
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่าหนี้ของนายผดุง จันทรุเบกษา ยังไม่ขาดอายุความนั้นเห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ได้ระบุห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่ได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก บทบัญญัติดังกล่าวนี้เป็นที่เห็นได้ว่าการได้รู้หรือควรได้รู้ดังกล่าว ต้องเป็นการรู้โดยแน่นอน มีหลักฐานยืนยัน แม้จะปรากฏว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบจากรายงานการเดินหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้นำหนังสือขอให้ชำระหนี้ไปส่งให้แก่นายผดุง ตามเอกสารหมาย ร.9 ว่า พบหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 14 ปี แจ้งว่า นายผดุงได้เสียชีวิตไปแล้วก็ตามก็เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นยังฟังเป็นแน่นอนหาข้อยุติไม่ได้ และต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีหนังสือสอบถามไปยังนายทะเบียนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของนายผดุง ก็ได้รับคำตอบว่าได้แจ้งย้ายออกไปอยู่ ณ ที่แห่งอื่น ครั้นสอบถามไปยังนายทะเบียนท้องถิ่นที่ได้มีการแจ้งย้ายออกไปอยู่ดังกล่าว กลับได้รับแจ้งว่าไม่ปรากฏชื่อของนายผดุงในบ้านเลขที่ดังกล่าวดังปรากฏตามเอกสารหมาย ค.4 ถึง ค.7 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่อาจตรวจสอบได้ว่า นายผดุงได้ถึงแก่กรรมไปแล้วจริงหรือไม่เมื่อต่อมาโจทก์ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบในเดือนมีนาคม 2531 ว่า นายผดุงถึงแก่กรรมแล้ว พร้อมทั้งแสดงใบมรณบัตรของเขตบางเขนเลขที่ 972/27 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2527 และผู้ร้องเป็นทายาทของนายผดุงตามเอกสารหมาย ค.10 ย่อมต้องถือว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รู้ถึงการตายของนายผดุงแล้วนับแต่นั้นและเมื่อเจ้าพนักงานได้มีหนังสือทวงหนี้ฉบับลงวันที่ 10 มิถุนายน2531 ไปยังผู้ร้องในฐานะทายาทนายผดุง ซึ่งเป็นระยะเวลาภายใน 1 ปีนับแต่ได้รู้หรือควรรู้ถึงการตายของลูกหนี้ จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง หนี้ดังกล่าวจึงยังไม่ขาดอายุความ…
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อนำสืบของผู้ร้องดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีหลักฐานอื่นใดสนับสนุน ไม่สามารถหักล้างบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ในวันประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1 ตามเอกสารหมายค.2 ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1024 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามข้อความที่ได้บันทึกไว้ทุกประการได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายผดุงยังค้างชำระหนี้ค่าหุ้นบริษัทลูกหนี้อยู่หุ้นละ 750 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 150,000บาท…”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.