คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าออมสินสาขาจังหวัดมหาสารคามเดิมสังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลขกระทรวงคมนาคม ต่อมาได้โอนกิจการและตำแหน่งมาสังกัดกระทรวงการคลังมีหน้าที่รับฝากเงินจ่ายเงิน และโอนเงินขององค์การและประชาชนซึ่งรัฐบาลแห่งประเทศไทยเป็นประกัน เพื่อประกอบธุรกิจของคลังออมสินและธนาคารออมสิน และมีหน้าที่ปกครองเก็บรักษาเงินที่ได้รับในหน้าที่ของจำเลยไว้เพื่อจ่ายและโอน จำเลยได้บังอาจยักยอกเอาเงินซึ่งอยู่ในความปกครองของจำเลยเพื่อใช้ในธุรกิจของคลังออมสินและธนาคารออมสินในตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยเป็นประโยชน์ส่วนตัว เป็นจำนวนเงิน 67,389 บาท 96 สตางค์ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แก้ไขเพิ่มเติม จำเลยปฏิเสธต่อสู้หลายประการ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำผิดดังฟ้องและเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานธนาคารออมสินให้จำคุก 5 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 แก้ไขเพิ่มเติม และให้ใช้เงิน

ศาลอุทธรณ์เชื่อข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าธนาคารออมสินไม่ใช่หน่วยราชการของรัฐบาล จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 131 แต่จำเลยมีหน้าที่ควบคุมเงินรายนี้ในกิจธุระของธนาคารตาม มาตรา 319(3) ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องประสงค์ให้ลงโทษ แต่อ้างบทมาตราผิด ศาลลงโทษได้ตามมาตรา 192 วรรค 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พิพากษาแก้ให้จำคุก 4 ปี ตามมาตรา 319 ข้อ 4 และให้ใช้เงิน

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทกฎหมายและกำหนดโทษเป็นแก้มากไม่ต้องห้ามฎีกา และโจทก์กล่าวฟ้องชัดแจ้งแล้วไม่เคลือบคลุม กับเชื่อข้อเท็จจริงตามศาลล่าง แต่เจ้าหน้าที่ของธนาคารออมสินมิได้รับเงินเดือนในงบประมาณแผ่นดิน และเมื่อโอนกิจการมาเป็นธนาคารออมสินก็ได้รับบำเหน็จบำนาญขาดตอนไปแล้ว และตามพระราชบัญญัติธนาคารออมสินก็ไม่มีบทบัญญัติแสดงว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินเป็นเจ้าพนักงานจะลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานไม่ได้แต่เห็นว่าความผิดตามมาตรา 131 และมาตรา 319 ข้อ 3 ต่างเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ทั้ง 2 มาตรา มาตรา 131 สำหรับเจ้าพนักงาน ส่วนมาตรา 319 ข้อ 3 วรรคแรก ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเจ้าพนักงานหรือไม่ แต่มาตรา 131 กำหนดโทษหนักกว่ามาตรา 319 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า ผู้กระทำผิดมีความผิดเบากว่าบทกฎหมายที่อ้างมา ศาลลงโทษตามบทที่เบากว่าได้ เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์

พิพากษายืน

Share