คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดาจำเลยได้ออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ไปและโจทก์ตกลงจะยกที่ดินให้จำเลยต่อมาอีก 7 วันโจทก์ก็จดทะเบียนโอนที่ดินให้จำเลยดังนี้ ไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หาแต่เป็นลักษณะการซื้อขายที่กันโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ที่ดินโฉนดที่ 2696 ซึ่งโจทก์ยกให้แก่จำเลยเพราะเหตุจำเลยเนรคุณ

จำเลยต่อสู้ว่าบิดาจำเลยได้ออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ไปแล้วโจทก์จึงโอนที่พิพาทให้จำเลย เป็นการโอนให้ที่มีค่าภาระติดพันโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่พิพาทคืน

ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์โอนที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าภาระติดพันไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เพิกถอนการให้

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บิดาจำเลยได้ออกเงินใช้หนี้แทนโจทก์ไป และโจทก์ตกลงโอนที่พิพาทให้จำเลยโดยได้โอนให้หลังจากที่บิดาจำเลยชำระหนี้ให้ 7 วัน จึงไม่ใช่เป็นการให้โดยเสน่หาแต่เป็นลักษณะของการซื้อขายที่พิพาทกัน ฉะนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะมาขอถอนคืนการโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทได้

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share