คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1904/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้ให้บุตรนำช้างไปชักลากไม้ท่อนของ ข. ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม โดยจำเลยไม่ได้ไปร่วมทำการชักลากไม้ด้วยถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีไม้ดังกล่าวไว้ในความครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาต จำเลยไม่มีความผิดฐานมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ แต่จำเลยรู้ว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้หวงห้าม จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ชักลากไม้(ทำไม้)หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมทำการชักลากไม้ (ทำไม้) จึงลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำผิดไม่ได้คงลงโทษได้เพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก ๒ คน ซึ่งถูกฟ้องและศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วร่วมกันทำการชักลากไม้ท่อนหวงห้ามยังมิได้แปรรูป ๑ ท่อน และร่วมกันมีไม้ดังกล่าวไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔, ๑๑, ๖๙, ๗๓, ๗๔ ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖, ๑๖, ๑๗ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๒, ๑๗, ๑๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำเลยฐานมีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในความครอบครองและชักลากไม้ ปรับจำเลยกระทงละ ๑๐๐ บาท รวมปรับ ๒๐๐ บาท คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ ๑ ใน ๔ คงปรับ ๑๕๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า รูปคดียังไม่แน่ว่าจำเลยนำช้างไปให้เจ้าของไม้ชักลากไม้โดยรู้ว่าเป็นไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยใช้ให้บุตรชายนำช้างไปชักลากไม้ของนายขวัญ โดยจำเลยรู้ว่าเป็นไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แล้ววินิจฉัยว่าไม้ของกลางเป็นของนายขวัญ จำเลยไม่ได้ร่วมทำการชักลากไม้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในความครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จำเลยไม่มีความผิดฐานมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครอง ส่วนความผิดฐานชักลากไม้ (ทำไม้) หวงห้ามนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมทำการชักลากไม้ (ทำไม้) หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดจำเลยเป็นเพียงผู้ใช้จึงลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำผิดไม่ได้ตามฟ้องของโจทก์คงลงโทษจำเลยได้เพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามมาตรา ๘๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๗๓ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖, ๑๗ และฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๗ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ ปรับจำเลย ๕๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share