แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264,265,268,83 ที่โจทก์อ้าง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภรรยานายพอนผู้วายชนม์ มีสิทธิแบ่งทรัพย์สินบริคณห์และรับมรดกนายพอน จำเลยกับพวกสมคบกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ คือ หนังสือสัญญาวางเงินมัดจำหรือสัญญาซื้อขายที่ดินปลอมเพื่อฉ้อโกงทรัพย์มรดก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 83
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 ฟ้องไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่อ้าง ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง แต่ฟ้องเคลือบคลุมไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ยกฟ้องตามมาตรา 161 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้รับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว ตามฟ้องข้อ 2 ของโจทก์กล่าวว่า นายโต๊ะ จานศิลา ปลอมหนังสือสัญญาซื้อขายและวางเงินมัดจำซึ่งเป็นหนังสืออยู่ในสำนวนคดีแพ่งเลขแดงที่ 143/2505 ฟ้องข้อ 3 วรรคต้นกล่าวว่าหลังจากนายพอน จานศิลา วายชนม์แล้วนายโต๊ะได้นำหนังสือดังกล่าวในฟ้องข้อ 2 มาฟ้องต่อศาล มีข้อความสำคัญว่า นายโต๊ะได้ซื้อที่ดินของนายพอนโฉนดที่ 5836 โดยชำระเงินให้นายพอนบ้าง นายกอนรับไปแทนบ้าง ชำระค่าที่ดินครบถ้วนแล้ว ให้นายกอนไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ เห็นว่าตามฟ้องข้อ 3 นี้ เป็นแต่กล่าวอ้างว่านายโต๊ะนำหนังสือดังกล่าวในฟ้องข้อ 2 มาฟ้อง แต่ในการนำมาฟ้อง นายโต๊ะจะกล่าวถึงหนังสือนั้นมาในฟ้องหรือไม่ไม่ปรากฏ เพราะโจทก์กล่าวข้อความถึงคำฟ้องของนายโต๊ะมานั้น ไม่ได้กล่าวถึงหนังสือตามฟ้องข้อ 2 เลย ส่วนข้อความในวรรค 2 ของฟ้องข้อ 3 มีใจความว่า จำเลยนี้ให้การรับในคดีที่นายโต๊ะฟ้องนั้น นายพอนได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินโฉนดที่ 5836 ให้แก่นายโต๊ะเป็นความจริง และนายโต๊ะชำระราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว โดยนายพอนรับเองบ้าง นายกอนรับแทนบ้างไม่คัดค้านการโอนที่ดินของโจทก์ จึงเห็นว่า ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าว ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับนายโต๊ะในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอมฟ้องตอนอื่น ๆ ก็ไม่ได้กล่าวข้อเท็จจริงอันแสดงว่าจำเลยสมคบหรือร่วมมือกับนายโต๊ะในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง พิพากษายืน