คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่เจ้าของรวมคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอกย่อมมีอำนาจทำได้โดยลำพัง
เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งเคยฟ้องขับไล่จำเลยหาว่าบุกรุกที่ดินกรรมสิทธิ์รวมมาแล้ว และได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรวมคนหนึ่งจะกลับมาฟ้องว่าจำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่อีก ย่อมเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันแม้ในคดีก่อนเจ้าของรวมนั้นจะไม่ได้รับมอบฉันทะให้ฟ้องแทนโจทก์หรือไม่ได้บรรยายฟ้องว่าฟ้องแทนโจทก์ ฟ้องของโจทก์ในคดีหลังนี้ก็เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนางน้อม วงศ์ประเสริฐ เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 2800 ร่วมกัน จำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่ ห้ามจำเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้จำเลยรื้อรั้ว ขนสิ่งของต่าง ๆ ออกไป และตัดต้นหรือใบจากที่รุกล้ำ หากไม่ทำ ให้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นผู้จัดการเอง

จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยทำรั้วในที่ดินของจำเลย ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความรับกันว่า ที่ดินโฉนดที่ 2800 โจทก์มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับนางน้อม วงศ์ประเสริฐ นางน้อมได้ฟ้องจำเลยหาว่าบุกรุกที่ดินที่โจทก์ฟ้องนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ได้มีการประนีประนอมยอมความกัน ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่นางน้อมเจ้าของรวมได้ฟ้องจำเลยทั้งห้าคนนี้หาว่าบุกรุกที่ดินแปลงนี้ตามสำนวนคดีแดงดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์เพื่อต่อสู้จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และเป็นการใช้สิทธิฟ้องแทนโจทก์ในคดีนี้ด้วย การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้อีก จึงเป็นการใช้สิทธิของนางน้อมเจ้าของรวม หรืออีกนัยหนึ่งเป็นตัวการที่ได้ฟ้องมาแล้วนั่นเอง เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า คดีที่นางน้อมฟ้องนั้นมีประเด็นข้อโต้เถียงอย่างเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ ศาลได้วินิจฉัยโดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและได้พิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน และไม่มีกรณีเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ แม้ในคดีก่อนนางน้อมจะไม่ได้รับมอบฉันทะให้ฟ้องแทนโจทก์หรือไม่ได้บรรยายฟ้องว่าฟ้องแทนโจทก์ด้วย ดังที่โจทก์ฎีกาก็ตาม ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 นั้น ก็ไม่ตรงกับกรณีนี้

พิพากษายืน

Share