คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าอาศัย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างโจทก์กับผู้โอนตามฟ้องแย้งของจำเลย โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้รับโอนโดยสุจริต ให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นข้อที่ว่า จำเลยอยู่โดยปรปักษ์หรือโดยอาศัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินโฉนดที่ 9782 ซึ่งโจทก์เป็นผู้ซื้อจากนางหุ่นจำเลยอาศัยนางหุ่นปลูกเรือนอยู่ โจทก์แจ้งให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยไม่ยอมออก นายเป๋า นายชมจำเลยให้การว่า นายไขว้ นางหุ่นได้ขายที่ดินพิพาทนี้แก่จำเลย เมื่อ 31-32 ปี มาแล้ว จำเลยทั้งสองได้ยึดถือครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมา นายไขว้ขอผัดไปจัดการโอน จนนายไขว้ตาย นางหุ่นก็ขอผัดเช่นเดียวกัน ต่อมาเดือนมีนาคมนี้ นางหุ่นหลอกลวงเอาโฉนดไปโอนขายให้แก่โจทก์โดยจำเลยไม่รู้ และฟ้องแย้งขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายระหว่างโจทก์กับนางหุ่นเสีย

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้ซื้อที่ดินรายนี้จากนางหุ่นและครอบครองมานานถึง 30 ปีแล้ว จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท พิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายระหว่างโจทก์กับนางหุ่น

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์ได้รับซื้อที่พิพาทจากนางหุ่นโดยเสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนโดยสุจริต จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าประเด็นที่โต้เถียงกัน มีว่าจำเลยได้อยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยนางหุ่นหรือซื้อจากนางหุ่น และศาลเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนางหุ่น เมื่อฟังว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนางหุ่นแล้วจำเลยก็ไม่มีทางชนะคดีโดยไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยข้อที่ว่าโจทก์ได้รับซื้อไว้โดยสุจริตหรือไม่

จึงพิพากษายืน

Share