แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปลัดอำเภอประจำตำบลไม่ใช่กรมการอำเภอ
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองกฎหมายมาตรา 1658 (2) มิได้บัญญัติว่ากรมการอำเภอ ต้องจดข้อความด้วยตนเอง จึงใช้ให้คนอื่นจดแทนได้ ถ้ากฎหมายจะให้กรมการอำเภอจดด้วยตนเองก็คงบัญญัติไว้ชัดเจนดังเช่นข้อ 4 ของมาตรา 1658 (4)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งทรัพย์มฤดกของนางจันสมตามบัญชีท้ายฟ้อง จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าทรัพย์มฤดกไม่ได้ตกอยู่แก่ตน จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า นางจันสมได้ทำหนังสือพินัยกรรมฝ่ายเมือง ยกทรัพย์มฤดกให้แก่ตน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า หนังสือพินัยกรรมเป็นประเด็นหรือบทและเป็นประเด็นสำคัญในคดี ควรจะวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องตนตาม ป.วิแพ่ง ม.๒๔ จึงสอบถามโจทก์จำเลย โจทก์แถลงว่า พินัยกรรมนั้นไม่ชอบด้วยแบบกฎหมายบังคับไว้ คือกรมการอำเภอไม่ได้เขียนพินัยกรรมด้วยตนเอง เป็นการฝ่าฝืนต่อมาตรา ๑๖๕๘ แห่ง ป.พ.พ.จำเลยแถลงว่าผู้เขียนพินัยกรรมนี้เป็นคณะกรมการอำเภอ แม้พินัยกรรมนี้จะเป็นเอกสารฝ่ายเมืองไม่ได้ ก็ยังสมบูรณ์ในแบบอื่นตาม ม.๑๓๖ แห่ง ป.ม.แพ่งฯ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ปลัดอำเภอประจำตำบลที่เป็นผู้จดข้อความในพินัยกรรม หาใช่กรรมการอำเภอไม่จึงไม่มีอำนาจที่จะเขียนข้อความลงในพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองตามมาตรา ๑๖๕๘ พินัยกรรมจึงตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๑๕ และ ๑๗๐๕ จึงมีคำสั่งว่าพินัยกรรมที่จำเลยที่ ๒ อ้างเป็นโมฆะ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หนังสือพินัยกรรมในคดีนี้ได้ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แม้ผู้จดข้อความในพินัยกรรมนั้นเป็นปลัดอำเภอประจำตำบลซึ่งทำงานอยู่ที่ว่าการอำเภอนั้น และกรมการอำเภอได้ใช้ให้เป็นผู้จดข้อความแทนตัวกรมการอำเภอ การจดนั้นก็ใช้ได้เพราะกรมการอำเภอใช้ให้เป็นมีผู้จดแทนตามมาตรา ๑๖๕๘ (๒) จึงพิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นเสีย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปโดยถือว่าพินัยกรรมใช้ได้ตามกฎหมาย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีปัญหาว่าตาม ม.๑๖๕๘ (๒) แห่ง ป.พ.พ.นั้น กรมการอำเภอต้องจดข้อความด้วยตนเองหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่าในข้อนี้กฎหมายมิได้บัญญัติว่ากรมการอำเภอต้องจดข้อความด้วยตนเองฉะนั้นย่อมใช้ให้คนอื่นจดแทนได้ ถ้ากฎหมายประสงค์จะให้กรมการอำเภอจดข้อความด้วยตนเองแล้ว ก็จะต้องด้วยบัญญัติไว้อย่างชัดเจนเช่นในข้อ ๔ ของมาตรา ๑๖๕๘ นั้น ฉะนั้นพินัยกรรมนี้สมบูรณ์