คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6298/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่เป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1304(2)นั้นเกิดขึ้นและเป็นอยู่ตามสภาพของที่ดินและการใช้ร่วมกันของราษฎรโดยไม่จำต้องมีประกาศพระราชกฤษฎีกาสงวนไว้หรือขึ้นทะเบียนหรือมีเอกสารราชการกำหนดให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ทั้งผู้ใดไม่อาจยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีอำนาจตรวจตรารักษาที่สาธารณประโยชน์สำหรับราษฎรใช้ร่วมกันในเขตปกครองของอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ดินหนองเกาะสาธารณประโยชน์เป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์และแหล่งน้ำของราษฎร อันเป็นที่สาธารณประโยชน์จำเลยโดยไม่มีสิทธิและปราศจากเหตุอันควรได้บุกรุกเข้าไปยึดถือและทำประโยชน์ในที่ดินหนองเกาะสาธารณประโยชน์ และหวงห้ามไม่ให้ราษฎรอื่นเข้าไปใช้ประโยชน์ตามปกติ ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากที่ดินหนองเกาะสาธารณประโยชน์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ตามฟ้องจำเลยครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมรดกและครอบครองต่อจากนายนันบิดาของจำเลย นายนันได้ก่นสร้างทำประโยชน์และแจ้งการครอบครองที่ดินตั้งแต่ปี 2478 (ที่ถูกปี 2498) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินหนองเกาะสาธารณประโยชน์
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นที่ซึ่งราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(2) ซึ่งที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่เป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น เกิดขึ้นและเป็นอยู่ตามสภาพของที่ดินและการใช้ร่วมกันของราษฎรโดยไม่จำต้องมีประกาศพระราชกฤษฎีกาสงวนไว้ หรือขึ้นทะเบียน หรือมีเอกสารราชการกำหนดให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ ทั้งผู้ใดไม่อาจยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับแผ่นดินได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share