คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6256/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภริยากัน ระหว่างอยู่กินด้วยกันมีบุตร 1 คน คือ ส. อายุ 15 ปี 2 เดือน ต่อมาโจทก์จำเลยได้จดทะเบียนหย่ากันและตกลงให้ ส.อยู่ในความปกครองของโจทก์ แม้หลังจากโจทก์จำเลยหย่ากันแล้ว ส.อยู่กับจำเลยและจำเลยเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู ส. อันเป็นเหตุให้ศาลล่างทั้งสองเพิกถอนอำนาจปกครองของโจทก์เสีย แต่เมื่อ ส.ได้ยื่นคำร้องแนบท้ายฎีกาโจทก์ว่า ขณะที่โจทก์จำเลยพิพาทกัน ส.ไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ไม่ได้อยู่กับโจทก์จำเลย ต่อมา ส.ได้กลับมาทำงานที่จังหวัดหนองคายรับทราบว่าโจทก์จำเลยฟ้องร้องกัน และ ส.ประสงค์จะอยู่ความปกครองของโจทก์ เนื่องจากจำเลยมีสามีใหม่ ศาลชั้นต้นได้สอบ ส.แล้วยืนยันว่าเป็นบุตรของโจทก์จำเลยและประสงค์จะอยู่ในความปกครองของโจทก์ ทั้งปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับโจทก์ ปัจจุบัน ส.อาศัยอยู่กับโจทก์และไม่ประสงค์จะอยู่กับจำเลย แม้ข้อเท็จจริงดังกล่าวจะปรากฏขึ้นในภายหลังโดยที่โจทก์มิได้นำสืบในชั้นพิจารณา แต่กรณีนี้ถือได้ว่าเหตุที่จะให้ถอนอำนาจปกครองของโจทก์ได้สิ้นไปแล้ว ศาลฎีกาย่อมที่จะสั่งให้โจทก์มีอำนาจปกครองดังเดิมได้ เมื่อส.อยู่กับจำเลยและจำเลยเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู ส.ได้หมดสิ้นไปแล้ว กรณีจึงไม่มีเหตุจะถอนอำนาจปกครองของโจทก์อีก สมควรให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองของ ส.ต่อไป ตลอดจนโจทก์ไม่จำต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรให้แก่จำเลยตามที่ศาลล่างทั้งสองได้พิพากษา

Share