แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองและใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคสาม และเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว แต่มีความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคสามซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงกรรมเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 80, 83, 288 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 55, 78 และริบของกลาง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพ
ระหว่างพิจารณา นายสมจิต เกื้อเพชรแก้วบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายวรวุฒิ เกื้อเพชรแก้ว ผู้ตายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 80, 83, 288 ให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 วรรคแรกลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 3 กึ่งหนึ่ง เนื่องจากอายุยังไม่เกิน17 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 (ที่ถูกประกอบด้วยมาตรา 53) ฐานฆ่าผู้อื่น คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 25 ปีจำเลยที่ 4 ให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 (ที่ถูกมาตรา 78ประกอบด้วยมาตรา 53) คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 12 ปี6 เดือน จำเลยที่ 4 มีกำหนด 25 ปี ฐานมีวัตถุระเบิด คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 3 ปี จำเลยที่ 4 มีกำหนด 6 ปี จำเลยที่ 3และที่ 4 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 3มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 4 มีกำหนด 3 ปี เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด13 ปี 12 เดือน จำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 28 ปี ริบของกลางยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 2
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2มีความผิด 2 กระทง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบด้วยมาตรา 83, 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 และ 83และพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 วรรคแรกความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 288 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำเลยที่ 1อายุไม่เกิน 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 53 ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นจำคุก 25 ปี และลงโทษฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดจำคุก 3 ปี เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 28 ปี คำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุก 18 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดจำคุก 6 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53 คงลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นจำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดจำคุก 4 ปีเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมเป็นจำคุก 37 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยที่ 3 นำลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารจีนคอมมิวนิสต์แบบ 82-2 จำนวน 1 ลูกมอบให้จำเลยที่ 4 ขว้างทำร้ายผู้ตายทั้งสองกับพวกตามฟ้องคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันกับจำเลยที่ 3 และที่ 4 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เมื่อโจทก์และโจทก์ร่วมมีแต่นายยุทธภูมิเพียงผู้เดียว ซึ่งมีเจตนาร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 3และที่ 4 แต่พนักงานสอบสวนสอบสวนเป็นพยาน ถ้อยคำของนายยุทธภูมิย่อมมีน้ำหนักน้อยและยังต้องรับฟังด้วยความระมัดระวังอีกด้วย ประกอบกับนายยุทธภูมิเบิกความลอย ๆ ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดสนับสนุนให้น่าเชื่อถือข้อเท็จจริงคงรับฟังได้แต่เพียงว่าระหว่างเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 อยู่รวมกลุ่มด้วยกันกับจำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกเท่านั้น พฤติการณ์ไม่พอบ่งชี้ชัดว่าการกระทำของจำเลยที่ 3 และที่ 4 อยู่ในขอบเขตแห่งเจตนาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 พยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมจึงตกอยู่ในความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกระทำความผิดรายนี้หรือไม่ จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสองที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟังขึ้น
อนึ่งที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง ลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4ฐานฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 กับลงโทษฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองรวมสองกรรมโดยเห็นว่าเป็นความผิดคนละกรรมนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองและใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 78 วรรคสาม และเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวแต่มีความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 78 วรรคสามซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงกรรมเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 คำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนนี้จึงไม่ชอบ เห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 83,มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55 ประกอบด้วยมาตรา 78 วรรคหนึ่งและวรรคสาม การกระทำทั้งหมดเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 วรรคสามซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90จำเลยที่ 3 อายุยังไม่เกินสิบเจ็ดปีลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 53แล้ว จำคุก 25 ปี จำเลยที่ 4 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 และที่ 4ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ประกอบด้วยมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 12 ปี6 เดือน จำเลยที่ 4 มีกำหนด 25 ปี ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1และที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1