แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดวิธีการแจ้งหนังสือตักเตือนให้ลูกจ้างทราบ ว่าต้องให้ลูกจ้างลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือนหรือต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบด้วยวิธีการอย่างใด ดังนั้น การที่นายจ้างออกหนังสือตักเตือนและแจ้งให้ลูกจ้างทราบแล้ว แม้ลูกจ้างไม่ได้ลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือน ก็ถือว่าลูกจ้างได้รับทราบหนังสือตักเตือนซึ่งทำให้หนังสือตักเตือนมีผลใช้บังคับแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างทำหน้าที่ช่างทอง ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2534 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ได้กระทำผิด ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย คืนเงินประกันความเสียหาย และค่าจ้างค้างจ่าย
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างเพราะโจทก์ขาดงานเป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า แต่จำเลยได้สั่งลงโทษการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวโดยตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว จำเลยอ้างเหตุดังกล่าวมาเลิกจ้างอีกจึงเป็นการซ้ำซ้อน ต้องจ่ายค่าชดเชย พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าหนังสือตักเตือนยังไม่มีผลใช้บังคับ เนื่องจากจำเลยได้ออกหนังสือตักเตือนดังกล่าวและแจ้งให้โจทก์ทราบแล้ว แต่โจทก์ไม่ยอมลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือน จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ใช่เป็นการลงโทษซ้ำซ้อนพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดว่าเมื่อนายจ้างออกหนังสือตักเตือนลูกจ้างแล้ว นายจ้างต้องแจ้งหนังสือตักเตือนให้ลูกจ้างทราบ โดยต้องให้ลูกจ้างลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือนหรือต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบด้วยวิธีการอย่างใด จึงเห็นว่าการที่จำเลยออกหนังสือตักเตือนตามเอกสารหมาย ล.1 และได้แจ้งให้โจทก์ทราบ แม้โจทก์จะไม่ได้ลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือนก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับทราบหนังสือตักเตือน ซึ่งทำให้หนังสือตักเตือนดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้แล้ว จำเลยจึงยกเหตุแห่งการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวมาลงโทษเลิกจ้างโจทก์อันเป็นการลงโทษซ้ำซ้อนอีกไม่ได้ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.