คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยกำหนดการลาป่วยว่า”ถ้า พนักงานป่วยสามวันทำงานติดต่อ กัน พนักงานจะต้อง แสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบัน” การที่โจทก์ซึ่ง เป็นพนักงานลาป่วยติดต่อ กันหลายวันโดย มีใบรับรองแพทย์มาแสดงสองฉบับ แต่ใบรับรองแพทย์ดังกล่าวมิได้รับรองว่าโจทก์ได้ ป่วยในวันที่ 1314ด้วย การยื่นใบลาป่วยในวันดังกล่าวจึงไม่ตรง ตาม ข้อบังคับของจำเลยจำเลยย่อมมีสิทธิปฏิเสธการลาป่วยที่ไม่ถูกต้องของโจทก์ได้ ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าการลาของโจทก์ดังกล่าวไม่ถือ เป็นการลาป่วย จึงหาเป็นการขัดต่อ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 12 ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย ตามข้อบังคับของจำเลยหากลาป่วยเกิน 2 วัน ต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดง หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ก็ให้แจ้งแก่หัวหน้างานทราบ เมื่อวันที่13, 14, 15 และ 18 กันยายน 2532 กับวันที่ 2 และ 3 ตุลาคม 2532โจทก์ป่วยและขอลาป่วยถูกต้องตามระเบียบแล้ว แต่จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ 13, 14 กันยายน 2532 และวันที่ 2, 3 ตุลาคม 2532ให้แก่โจทก์ ขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างในวันลาป่วยดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 564 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย โจทก์ต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงว่าป่วยจริง มิฉะนั้นจะถือว่าขาดงานละทิ้งหน้าที่ ซึ่งจะไม่จ่ายค่าจ้างในวันหยุดนั้น วันที่ 13, 14, 15 และ18 กันยายน 2532 โจทก์ได้หยุดงาน เมื่อโจทก์มาทำงานในวันที่ 19กันยายน 2532 โจทก์ยื่นใบลาย้อนหลังโดยแนบใบรับรองแพทย์มา 2ฉบับ ฉบับหนึ่งให้โจทก์หยุดเพื่อรักษาตัวในวันที่ 15 กันยายน 2532และอีกฉบับหนึ่งให้โจทก์หยุดเพื่อรักษาตัวในวันที่ 18 กันยายน 2532ส่วนในวันที่ 13, 14 กันยายน 2532 โจทก์ไม่มีหลักฐานมาแสดงจำเลยจึงถือว่าโจทก์ไม่ป่วยจริงและถือว่าโจทก์ขาดงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ ส่วนวันที่ 2และ 3 ตุลาคม 2532 โจทก์หยุดงานไปโดยไม่ได้ลาและแจ้งให้หัวหน้างานของจำเลยทราบ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2532 โจทก์เข้าทำงานและยื่นใบลาป่วยโดยอ้างว่าเป็นไข้หวัด ซึ่งไม่ถูกต้องตามระเบียบ จำเลยจึงไม่อนุมัติ และสั่งว่าโจทก์ขาดงาน จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้โจทก์เช่นกัน ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า ช่วงที่โจทก์หยุดงานในวันที่ 13, 14กันยายน 2532 และวันที่ 2, 3 ตุลาคม 2532 โดยไม่ได้ยื่นใบลาและไม่ได้แจ้งให้หัวหน้างานหรือจำเลยทราบในวันที่ขอลาแต่ได้ยื่นใบลาป่วยย้อนหลัง เป็นการไม่ถูกต้องตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.5 (ซึ่งข้อความตรงกับเอกสารหมาย ล.1)ซึ่งกำหนดไว้ในหน้า 5 ว่า การลาป่วยต้องยื่นใบลาตามแบบฟอร์มของบริษัทต่อหัวหน้างานหรือบริษัทในวันที่ขอลา เว้นแต่ไม่สามารถยื่นใบลาได้ กรณีเช่นนี้ต้องแจ้งให้หัวหน้างานหรือบริษัททราบภายในเวลาทำงานในวันที่ป่วยและยื่นใบลาป่วยในวันแรกที่กลับเข้าทำงานศาลแรงงานกลางจึงวินิจฉัยว่าการที่โจทก์ยื่นใบลาป่วยย้อนหลังและจำเลยไม่อนุมัติการลาป่วยของโจทก์จึงไม่ชอบและไม่ถือว่าเป็นการลาป่วยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 12 คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางดังกล่าวเป็นการพิจารณาหลักการลาป่วยตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.5และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารหมาย ล.1 เห็นว่า คดีนี้จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ลาป่วยโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย จำเลยจึงถือว่าโจทก์ขาดงานและละทิ้งหน้าที่การงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์ในการวินิจฉัยปัญหานี้ จึงต้องถือเอาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยตามเอกสารหมาย ล.1 ข้อ 2.2 หลักเกณฑ์การลาป่วยเป็นหลักในการวินิจฉัย ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยดังกล่าวกำหนดไว้ดังนี้
“2.2.1 พนักงานมีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างปีหนึ่งไม่เกิน30 วันทำงาน
2.2.2 ถ้าพนักงานป่วย 3 วันทำงานติดต่อกัน พนักงานจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่ง ถ้าไม่อาจทำใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งได้ให้ชี้แจงเหตุผลให้ทราบ
2.2.3 วันลาป่วยเป็นสิทธิในการลาของพนักงาน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อพนักงานเจ็บป่วย บาดเจ็บด้วยเหตุอื่นจนทำให้ไม่สามารถทำงานได้โดยไม่ทราบล่วงหน้า การลาป่วยต้องขอลาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ หรือระหว่างการเจ็บป่วยต้องแจ้งให้ทางบริษัททราบซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องกระทำภายใน 4 ชั่วโมงแรกของเวลาเริ่มปฏิบัติงาน หรือแจ้งให้ทราบในวันแรกที่มาทำงานตามปกติในวันแรกที่ต้องหยุดงาน การขอลาป่วยนี้อาจทำได้เช่นเดียวกับการลากิจในกรณีฉุกเฉิน”
สำหรับการลาป่วยของโจทก์ในวันที่ 13, 14 กันยายน 2532นั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ไม่มาทำงานสี่วันติดต่อกัน คือวันที่ 13, 14, 15 และ 18 กันยายน 2532 โจทก์ได้ยื่นใบลาป่วยสี่วันตามข้อบังคับของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.3 โดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงสองฉบับ คือเอกสารหมาย จ.1 จ.2ใบรับรองแพทย์ตามเอกสารหมาย จ.1 ลงความเห็นว่า โจทก์เป็นไข้หวัดสมควรให้หยุดพักรักษาตัว 2 วัน คือวันที่ 15 และ 16กันยายน 2532 ใบรับรองแพทย์ตามเอกสารหมาย จ.2 ลงความเห็นว่าสมควรได้รับการพักผ่อน 1 วัน ในวันที่ 18 กันยายน 2532ใบรับรองแพทย์ทั้งสองฉบับหาได้รับรองว่าโจทก์ป่วยในวันที่ 13, 14กันยายน 2532 ด้วยไม่ การที่โจทก์ยื่นใบลาป่วยในวันที่ 13, 14ดังกล่าวด้วย จึงไม่ตรงต่อความเป็นจริง และไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของจำเลยที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การลาป่วยของโจทก์ในวันที่13, 14 กันยายน 2532 ไม่ถือเป็นการลาป่วย จึงหาเป็นการขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 12 ตามที่โจทก์อุทธรณ์ไม่ เพราะบทบัญญัติตามข้อ 12 เป็นหลักเกณฑ์ในการยื่นใบลาป่วย แต่กรณีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ได้ลาป่วยโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงตามข้อบังคับของจำเลยแล้ว แต่ใบลาป่วยของโจทก์ไม่ถูกต้องตรงกับใบรับรองแพทย์ จำเลยจึงมีสิทธิปฏิเสธการลาป่วยที่ไม่ถูกต้องของโจทก์ได้ ไม่จำเป็นต้องให้โจทก์นำใบรับรองแพทย์มาแสดงอีกตามที่โจทก์อุทธรณ์
ส่วนการลาป่วยของโจทก์ในวันที่ 2, 3 ตุลาคม 2532 นั้นแม้ฟังได้ตามคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางว่า โจทก์ไม่ได้ยื่นใบลาในวันลาและไม่ได้แจ้งให้จำเลยทราบในระหว่างการลาเป็นการฝ่าฝืนต่อข้อบังคับเอกสารหมาย ล.1 ข้อ 2.2.3 และข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.5 แต่จำเลยก็หาได้ให้การต่อสู้ไม่ว่าโจทก์ไม่ได้ป่วยจริงในระหว่างวันที่ 2, 3 ตุลาคม 2532 การฝ่าฝืนข้อบังคับของโจทก์ดังกล่าวจึงคงมีความผิดฐานฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์การลาป่วยเท่านั้น ซึ่งจำเลยอาจจะลงโทษในความผิดฐานนั้นได้ แต่ไม่อาจจะถือได้ว่าโจทก์ขาดงานด้วยการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร การที่จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างในวันลาป่วยดังกล่าวให้แก่โจทก์โดยถือว่าโจทก์ขาดงาน จึงไม่ถูกต้อง จำเลยจะต้องจ่ายค่าจ้างสองวัน คือวันที่ 2, 3 ตุลาคม 2532 เป็นเงิน282 บาท ให้แก่โจทก์ คำพิพากษาส่วนนี้ของศาลแรงงานกลางไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าจ้างจำนวน 282 บาทแก่โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง.

Share