แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดว่าเมื่อนายจ้างออกหนังสือตักเตือนลูกจ้างแล้ว นายจ้างต้องแจ้งหนังสือตักเตือนให้ลูกจ้างทราบโดยต้องให้ลูกจ้างลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือน หรือต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบโดยวิธีการอย่างใดการที่จำเลยออกหนังสือตักเตือน และแจ้งให้โจทก์ทราบ แม้โจทก์จะไม่ได้ลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือน ก็ถือได้ว่าโจทก์ได้ทราบหนังสือตักเตือน ซึ่งทำให้หนังสือตักเตือนมีผลใช้บังคับแล้วและเมื่อจำเลยได้สั่งลงโทษการกระทำความผิดของโจทก์ โดยการตักเตือนมีหนังสือแล้ว จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างเหตุแห่งการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวอีกไม่ได้ เพราะเป็นการซ้ำซ้อนกับการกระทำผิดของโจทก์ในคราวเดียวกัน จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า10,133 บาท ค่าชดเชย 8,000 บาท คืนเงินประกันความเสียหาย 1,333 บาทและจ่ายค่าจ้างค้างชำระ 5,866 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์ขาดงานเป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณา จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ 3,482 บาท โจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกร้องเงินค่าจ้างที่ค้างชำระและเงินประกันความเสียหายที่ฟ้องเรียกจากจำเลย
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ได้ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์ แต่สำหรับค่าชดเชยนั้น จำเลยได้สั่งลงโทษการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวโดยตักเตือนเป็นหนังสือตามเอกสารหมาย ล.1 แล้ว จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างเหตุแห่งการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวเป็นการซ้ำซ้อนกับการกระทำผิดของโจทก์ในคราวเดียวกัน จำเลยจะอ้างว่าไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์เป็นเงิน 8,000 บาท คำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้กำหนดว่าเมื่อนายจ้างออกหนังสือตักเตือนลูกจ้างแล้ว นายจ้างต้องแจ้งหนังสือตักเตือนให้ลูกจ้างทราบ โดยต้องให้ลูกจ้างลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือนหรือต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบด้วยวิธีการอย่างใดจึงเห็นว่าการที่จำเลยออกหนังสือตักเตือนตามเอกสารหมาย ล.1 และได้แจ้งให้โจทก์ทราบ แม้โจทก์จะไม่ได้ลงชื่อรับทราบในหนังสือตักเตือนก็ถือได้ว่าโจทก์ได้รับทราบหนังสือตักเตือนซึ่งทำให้หนังสือตักเตือนดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้แล้ว จำเลยจึงยกเหตุแห่งการกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวมาลงโทษเลิกจ้างโจทก์อันเป็นการลงโทษซ้ำซ้อนอีกไม่ได้ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.