คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเอาตัวผู้เสียหายไปหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องพักโรงแรม ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 กับพวกขู่เข็ญข่มขืนใจผู้เสียหายจนกระทั่งผู้เสียหายยอมให้เงินแก่จำเลยที่ 1 กับพวก เป็นความผิดฐานกรรโชกอีกกรรมหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๓ เวลากลางคืนหลังเที่ยงติดต่อกันตลอดมาถึงวันที่ ๒๓ กันยายน เวลากลางวันจำเลยที่ ๔ และที่ ๖ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลบางรักได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ร่วมกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ทำการค้นตัวผู้เสียหายเพื่อค้นหาขอผิดกฎหมาย แล้วร่วมกันลักเอาเงินสดของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ในการลักทรัพย์ดังกล่าวจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปทุกคนได้ร่วมกันขู่เข็ญผู้เสียหายว่า ในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ พาทรัพย์และยื่นให้ซึ่งทรัพย์จากนั้นจำเลยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวและกักขังผู้เสียหายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยพาไปควบคุมไว้ในรถยนต์และในห้องพักของโรงแรม แล้วร่วมกันข่มขืนใจผู้เสียหายให้ยอมมอบเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาทให้แก่จำเลย หากไม่ยอมให้จะฆ่าหรือมิฉะนั้นจะแกล้งจับกุมผู้เสียหายส่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดให้โทษผิดกฎหมาย ผู้เสียหายมีความกลัวยอมมอบเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่จำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘, ๑๕๗, ๓๐๙ วรรค ๒,๓๑๐, ๓๓๕, ๓๓๗(๒), ๓๔๐ วรรคสอง ๓๔๐ ตรี
จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ ๓ ถึงแก่ความตายศาลสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๓
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าในการทำผิดจำเลยที่ ๑หรือพวกของจำเลยที่ ๑ มีอาวุธติดตัวไปด้วย และฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกข่มขู่จะฆ่าผู้เสียหายกับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ กระทำผิดในความผิดฐานอื่นสำหรับจำเลยอื่นพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังว่าได้กระทำผิด พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๗ วรรคแรก, ๘๓ กระทงหนึ่งและตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๐, ๘๓ อีกกระทงหนึ่ง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๑ กับพวกเอาตัวผู้เสียหายไปหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องพักโรงแรม ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งแล้ว เมื่อจำเลยที่ ๑ กับพวกขู่เข็ญข่มขืนใจผู้เสียหายจนกระทั่งผู้เสียหายยอมให้เงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่จำเลยที่ ๑ กับพวก เป็นความผิดฐานกรรโชกอีกกรรมหนึ่งที่ศาลล่างเรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ ๑ เป็นสองกรรมนั้นชอบแล้วฎีกาจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share