คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6243/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยโอนที่ดินพิพาทให้บุคคลอื่นในระยะเวลา 3 ปี ก่อนมีการฟ้องให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ ศาล มีคำสั่งเพิกถอนการโอนดังกล่าว คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของ ศาลฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้และให้ยกเลิก การล้มละลายของจำเลย จำเลยจึงพ้นจากภาวะการเป็นบุคคลล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจที่จะขอให้เพิกถอนที่ดิน พิพาท ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22,114,116.

ย่อยาว

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสามเด็ดขาดเมื่อวันที่ 28มิถุนายน 2528 และพิพากษาให้จำเลยทั้งสามล้มละลายเมื่อวันที่4 มีนาคม 2529 จำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 34096 พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 34/1 ต่อมาเมื่อวันที่7 กันยายน 2527 จำเลยที่ 3 ได้โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่นายสามารถในราคา 200,000 บาท เป็นการโอนในระยะเวลา 3 ปีก่อนมีการฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย (ฟ้องวันที่ 14 มีนาคม 2528)และเป็นการโอนโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ครั้นวันที่ 3 มกราคม2528 นายสามารถได้โอนขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่นางสาวนิดในราคา 500,000 บาท การโอนได้กระทำก่อนที่จำเลยที่ 3 ถูกฟ้องล้มละลาย 3 เดือน โดยสมยอมกัน จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 34096 พร้อมบ้านเลขที่ 34/1ระหว่างจำเลยที่ 3 กับนายสามารถ และระหว่างนายสามารถกับนางสาวนิดเสียตามมาตรา 114 และมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483และให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม หากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ให้นายสามารถและนางสาวนิดร่วมกันชดใช้ราคาที่ดินและบ้านจำนวน573,900 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ได้รับโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยที่ 3 ด้วยความสุจริตและมีค่าตอบแทน ขอให้ยกคำร้อง
ผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำคัดค้านว่า การซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้กระทำไปโดยสุจริตและชำระเงินค่าตอบแทน 500,000 บาทก่อนมีการขอให้จำเลยที่ 3 ล้มละลาย ผู้คัดค้านที่ 2 ย่อมได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 34096พร้อมบ้านเลขที่ 34/1 ระหว่าง นายธีระพลจำเลยที่ 3 กับนายสามารถผู้คัดค้านที่ 1 และระหว่างนายสามารถผู้คัดค้านที่ 1 กับนางสาวนิดผู้คัดค้านที่ 2 ตามมาตรา 114 และมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 และให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม หากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ให้ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 2 ร่วมกันชดใช้ราคาที่ดินและบ้านจำนวน 573,900 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
ผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา
คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำแถลงลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2534 ว่า ศาลแพ่งได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้และให้ยกเลิกการล้มละลายของนายธีระพล เฮงสกุลจำเลยที่ 3 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2534 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 อีกต่อไป
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยกับการประนอมหนี้และสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยที่ 3 อันเป็นการยกเลิกการล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 63จำเลยจึงพ้นจากภาวะการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 22, 114, 116 ที่จะขอให้เพิกถอนที่ดินแปลงพิพาทได้ศาลฎีกาจึงต้องยกคำร้องของผู้ร้องโดยไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง.

Share