แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนที่กล่าวหาว่ากรรมการตรวจคะแนนวินิจฉัยบัตรดีเป็นบัตรเสีย วินิจฉัยบัตรเสียเป็นบัตรดี โดยมิได้กล่าวบรรยายมาด้วยว่าบัตรชนิดใดที่เป็นบัตรดีแต่กรรมการตรวจคะแนนถือว่าเป็นบัตรเสีย และบัตรชนิดใดที่เป็นบัตรเสียกรรมการตรวจคะแนนถือว่าเป็นบัตรดี
กล่าวหาว่า มีบุคคลบางคนใช้อิทธิพลบีบบังคับผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งบางนายและผู้สมัครรับเลือกตั้งบางนายหรือพรรคพวก ให้หรือขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แก่ผู้เลือกตั้ง เพื่อจูงใจผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครที่เป็นพรรคพวกของตนโดยไม่ระบุว่า ใครเป็นผู้ใช้อิทธิพลบีบบังคับผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครคนใด และผู้สมัครคนใดหรือพรรคพวกของผู้สมัครคนใด ให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินแก่ผู้เลือกตั้ง และผู้ร้องมิได้ยืนยันว่าผู้ได้รับเลือกตั้งคนที่ตนร้องคัดค้านกระทำการดังกล่าว
กล่าวหาว่า ได้มีการแก้ไขประกาศผลการนับคะแนนและรายงานการนับคะแนนให้ผิดพลาดไปจากความจริง โดยมิได้บรรยายว่า การแก้ไขนั้นได้กระทำในหน่วยเลือกตั้งใด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนเขตเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรีว่าปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมายหลายอย่างหลายประการว่า
ก. ระหว่างการลงคะแนน กรรมการตรวจคะแนนทุกหน่วยให้เสมียนคะแนนตรวจสอบชื่อในบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้งและหมายเหตุในบัญชี ไม่อ่านชื่อที่อยู่ของผู้เลือกตั้งก่อนจ่ายบัตรและหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครให้ผู้เลือกตั้งและยอมให้เสมียนคะแนนเป็นผู้จ่ายบัตรและเลขหมายประจำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยพลการ ใช้เสมียนกรอกคะแนนในใบกรอกคะแนน ซึ่งเป็นกิจการที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้กรรมการตรวจคะแนนเป็นผู้ปฏิบัติ เป็นผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่การเลือกตั้งเพราะก่อให้เกิดการกระทำที่ไม่สุจริตยุติธรรมแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ข. คณะกรรมการตรวจคะแนนทุกหน่วยวินิจฉัยบัตรลงคะแนนที่ดีเป็นบัตรเสียและวินิจฉัยบัตรเสียเป็นบัตรดี เป็นการให้คุณให้โทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ฝ่าฝืน ขัดต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. ๒๕๑๑ มาตรา ๕๘
ค. มีบุคคลบางคนใช้อิทธิพลบีบบังคับผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งบางนาย และผู้สมัครรับเลือกตั้งบางนายและพรรคพวกให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจะจูงใจให้ลงคะแนนแก่ตนหรือพรรคพวกของตน นอกจากนั้นยังมีการแก้ไขประกาศผลของการนับคะแนนและรายงานการนับคะแนนให้ผิดพลาดไปจากความจริง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีได้ประกาศให้นายเพียรศักดิ์ นิสสัยสุข หมายเลข ๖ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งว่าการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรีเป็นโมฆะ และมีคำสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่
นายเพียรศักดิ์ นิสสัยสุข และนายเกษม จียะพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ยื่นคำคัดค้านว่า เจ้าพนักงานทุกหน่วยเลือกตั้งตลอดจนผู้เกี่ยวข้องได้กระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายกฎและข้อบังคับต่าง ๆ ทุกประการ คำร้องขอผู้ร้องเคลือบคลุม
ศาลจังหวัดสิงห์บุรีทำการไต่สวนพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายกับได้เปิดหีบบัตรเลือกตั้งทั้ง ๘๘ หน่วยต่อหน้าคู่ความตรวจบันทึกแล้วทำความเห็นส่งศาลฎีกาเห็นสมควรให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คำร้องข้อแรก (ข้อ ก.) คำร้องข้อนี้ไม่เคลือบคลุมแต่ผู้ร้องไม่สามารถนำสืบได้ดังคำร้องข้อบกพร่องดังกล่าวในข้อนี้ แม้จะมีอยู่เป็นบางหน่วยเลือกตั้งก็จริง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเกิดจากการทุจริตของกรรมการตรวจคะแนน ศาลฎีกาเห็นว่าข้อบกพร่องต่าง ๆ ตามที่ผู้ร้องกล่าวถึงในข้อนี้ยังไม่ถึงกับเป็นเหตุให้สมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่
คำร้องข้อ ข. เห็นว่า ตามคำร้องนี้มิได้กล่าวถึงว่า บัตรชนิดใดที่เป็นบัตรดี แต่กรรมการตรวจคะแนนถือว่าเป็นบัตรเสีย และบัตรชนิดใดที่เป็นบัตรเสียกรรมการตรวจคะแนนถือว่าเป็นบัตรดี อันบัตรเลือกตั้งที่กฎหมายถือว่าเป็นบัตรเสียนั้น ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. ๒๕๑๑ มาตรา ๕๘ บัญญัติไว้ถึง ๗ ชนิดด้วยกันจะกล่าวคลุม ๆ มาดังคำร้องของผู้ร้อง หาชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ ไม่ จริงอยู่ในการเปิดหีบบัตรเลือกตั้งออกตรวจนั้น ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นตรวจแต่เฉพาะบัตรที่ปิดเลขไทยหรือเลขอารบิคแต่อย่างเดียว และเป็นบัตรที่กรรมการตรวจคะแนนถือว่าเป็นบัตรดี ซึ่งความจริงเป็นบัตรที่ใช้นับคะแนนไม่ได้เท่านั้น เมื่อคำร้องข้อนี้เคลือบคลุมเสียแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาวินิจฉัยข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป
คำร้องข้อ ค. ศาลฎีกาเห็นว่าคำร้องข้อนี้ก็อยู่ในลักษณะเคลือบคลุมเช่นเดียวกัน เพราะไม่ระบุว่าใครเป็นผู้ใช้อิทธิพลบีบบังคับผู้เลือกตั้งให้ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครคนใด และผู้สมัครคนใดหรือพรรคพวกของผู้สมัครคนใด ให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินแก่ผู้เลือกตั้ง ผู้ร้องก็มิได้ยืนยันว่านายเพียรศักดิ์ นิสสัยสุข ผู้ได้รับเลือกตั้งกระทำการดังกล่าวนั้นถ้าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น จะถือว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบหาได้ไม่และที่ผู้ร้องกล่าวด้วยว่า ได้มีการแก้ไขประกาศผลของการนับคะแนนและรายงานการนับคะแนนให้ผิดพลาดไปจากความจริง ผู้ร้องก็มิได้บรรยายว่าการแก้ไขนั้นได้กระทำในหน่วยเลือกตั้งใด เป็นการกล่าวหาคลุม ๆ ไปถ้าหากว่ามีการกระทำเช่นนั้นจริง ผู้ร้องก็อาจที่จะระบุหน่วยเลือกตั้งได้ว่าเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ไหน ตำบลใด อำเภอใด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุมเช่นเดียวกัน
สรุปแล้วเห็นว่า ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่
จึงให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ให้ผู้ร้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้คัดค้านทั้ง ๒ รายโดยกำหนดทนายความให้รายละ ๑๕๐ บาท