คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีภรรยาที่ยังอยู่กินด้วยกัน จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์สินที่บริคณห์ปนกันอยู่นั้นมิได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้
ภรรยาอ้างว่า ทรัพย์เป็นสินสมรส ฝ่ายสามีว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่นจะฟ้องสามีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นสินสมรสไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากจำเลย และขอให้ศาลแสดงว่าห้องแถวเป็นสินสมรสและขอแบ่ง จำเลยต่อสู้ว่า ห้องแถวเป็นของบุตรจำเลยไม่ใช่สินสมรส

ชั้นพิจารณา โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่า ยังคงติดใจเป็นสามีภริยากันต่อไป ขอให้ศาลชี้ขาดเฉพาะข้อที่ว่า ห้องแถวเป็นสินสมรสเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว โจทก์แถลงว่าไม่ต้องการฟ้องบุคคลอื่นเป็นจำเลยร่วม ฝ่ายจำเลยคงยืนยันว่า ทรัพย์เป็นของบุตรจำเลยจำเลยไม่เกี่ยวข้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย เพราะจำเลยไม่ใช่เจ้าของทรัพย์รายพิพาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีใหม่

จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า โดยปกติเมื่อหญิงชายยังสมัครเป็นสามีภริยากันอยู่ จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์ที่บริคณห์กันอยู่ไม่ได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจ เช่นที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1467, 1472 และมาตรา 1478แต่ในเรื่องนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ทำได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share