แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง จำเลยยื่นคำคัดค้าน เมื่อศาลสั่งอนุญาตแล้ว จำเลยก็มิได้คัดค้านดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาแล้ว จำเลยจะยกขึ้นอุทธรณ์ไม่ได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 226 (2)
ย่อยาว
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องที่ดิน โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยให้การว่าไม่ได้ล้อมรั้วรุกที่ดินของโจทก์ ที่ ๆ ล้อมรั้วเป็นที่ของจำเลย
โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่า แม้ที่ดินพิพาทจะอยู่ในเขตต์โฉนดของจำเลย ๆ ก็หมดสิทธิ เพราะจำเลยปล่อยให้นางนิ่มและโจทก์ครอบครองโดยปรปักษ์ด้วยความสงบและเปิดเผยมากว่า ๑๐ ปีแล้ว ขอให้แสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยคัดค้านว่า คำร้องเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์เป็นการตั้งรูปเปลี่ยนแปลงใช้ความสำคัญผิดวิธีพิจารณา ไม่ควรอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้อง
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ฟ้องเพิ่มเติมได้ ฝ่ายจำเลยมิได้มีคำโต้แย้งว่าอย่างใดอีก ศาลชั้นต้นสืบพะยานแล้วพิพากษาว่าที่พิพาทและต้นไม้ที่ฟ้องเป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้อง ให้รื้อรั้วออกไปให้พ้นที่ของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การเพิ่มคำฟ้องกระทำถูกต้องตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.๑๗๙,๑๘๐ แล้ว ที่พิพาทจำเลยละทิ้งไม่ได้ครอบครองตั้งแต่นางนิ่มเป็นเจ้าของที่ดิน เมื่อโจทก์ซื้อแล้ว โจทก์ได้ปกครองต่อจากนางนิ่มตลอดมาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี จำเลยขาดการครอบครอง จึงพิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ม.๒๔๘ มีข้อที่ศาลว่า คำร้องเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์เป็นการต้องห้ามตาม ม.๑๘๐ (๑) หรือไม่ แต่ความข้อนี้ปรากฎตามรายงานพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้ นัดสืบพะยานโจทก์ก่อน จนกระทั่งศาลพิพากษา ฝ่ายจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลเรื่องอนุญาตให้ฟ้องเพิ่มเติมอย่างใด เป็นแต่คัดค้านไว้เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องซึ่งเป็นเวลาก่อนศาลมีคำสั่ง จำเลยฎีกาในข้อที่ไม่ได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.๒๒๖ ข้อ ๒ จึงให้ยกฎีกาจำเลย คงพิพากษายืน