คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6207/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เด็กชายด. มีอายุไม่เกิน 15 ปี หลังจากบิดามารดาของเด็กชายด. ถึงแก่ความตาย ผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่สาวของบิดาเด็กชายด.เป็นผู้ดูแลเด็กชายด.ตลอดมาการที่ผู้เสียหายเป็นผู้อนุญาตให้จำเลยพาเด็กชายด. ไปทำงานที่กรุงเทพมหานครตามที่จำเลยร้องขอ ไม่ปรากฏเลศนัยอันส่อให้เห็นถึงความไม่สุจริตของจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยพาเด็กชายด. ไป การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจาก ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคแรกส่วนกรณีที่เด็กชายด. ได้หายไปหลังจากไปอยู่กรุงเทพมหานครนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิด ตามบทกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้พรากเด็กชายดำ ยินดีรัมย์อายุ 11 ปีไปเสียจากนางเจียม ยาวรัมย์ ผู้ปกครองดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 317
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 317 วรรคแรก จำคุก 6 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าเด็กชายดำ ยินดีรัมย์ มีอายุไม่เกิน 15 ปี หลังจากบิดามารดาของเด็กชายดำถึงแก่ความตายนางเจียม ยาวรัมย์ผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่สาวของบิดาเด็กชายดำได้เป็นผู้ดูแลเด็กชายดำตลอดมา คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามฎีกาของโจทก์หรือไม่ ในข้อนี้ได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายพยานโจทก์ว่า พยานเป็นผู้อนุญาตให้จำเลยพาเด็กชายดำไปทำงานที่กรุงเทพมหานครตามที่จำเลยร้องขอ ไม่ปรากฏตามข้อนำสืบของพยานหลักฐานของโจทก์ว่า การขออนุญาตของจำเลยดังกล่าวมีเลศนัยอันส่อให้เห็นถึงความไม่สุจริตของจำเลยแต่อย่างใดการที่ผู้เสียหายอนุญาตให้จำเลยพาเด็กชายดำไปทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคแรกส่วนกรณีที่เด็กชายดำได้หายไปหลังจากไปอยู่กรุงเทพมหานครกับจำเลยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดตามบทมาตราดังกล่าว
พิพากษายืน

Share