แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ขณะที่ ส. แสดงความประสงค์ขอทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองกับนายอำเภอ ส. ไม่ได้แจ้งข้อความที่ตนประสงค์จะให้ใส่ไว้ในพินัยกรรมของตนต่อหน้าพยานอื่นอีกสองคนพร้อมกันจึงเป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1658(1) ย่อมตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 1705.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง
จำเลยให้การว่า พินัยกรรมรายพิพาทเป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้น พิพากษาให้เพิกถอนพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ปัญหาต่อไป พินัยกรรมเอกสารหมายล.2 เป็นพินัยกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 บัญญัติว่า “พินัยกรรมนั้น จะทำเป็นเอกสารฝ่ายเมืองก็ได้กล่าวคือ
(1) ผู้ทำพินัยกรรมต้องไปแจ้งข้อความที่ตนประสงค์จะให้ใส่ไว้ในพินัยกรรมของตนแก่กรมการอำเภอต่อหน้าพยานอีกอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน ฯลฯ
ตามพฤติการณ์ดังกล่าวข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่า ขณะที่นายสำอางแสดงความประสงค์ขอทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองกับนายกิตติ(นายอำเภอภูเวียง) นายสำอาง ไม่ได้แจ้งข้อความที่ตนประสงค์จะให้ใส่ในพินัยกรรมของตนต่อหน้าพยานอื่นอีกสองคนพร้อมกัน จึงเป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658(1)ย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1705 ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 621/2492 ระหว่างนายเผือก อัจกลับ โจทก์นางยัง กำเหนิดบุญ จำเลย”
พิพากษายืน.