คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713 บัญญัติว่า ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ดังนั้น ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามมาตราดังกล่าวหาจำต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายโดยเป็นทายาทโดยตรงของผู้ตายทุกกรณีไม่ เมื่อผู้ร้องเป็นผู้รับมรดกของ ก. แทนที่ ช. บิดาผู้ร้อง และหลังจากที่ ก. ถึงแก่ความตาย ที่ดินของ ก. และ ส. ยังมิได้จัดแบ่งตามกรรมสิทธิ์แห่งเจ้าของรวม ดังนั้น ผู้ร้องจึงมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่งและถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกของ ส. ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ ส. ในที่ดินโฉนดดังกล่าวได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นทายาทและเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับทรัพย์มรดกของนางกาบจันทร์ เฉลิมพล และนายสวัสดิ์ เฉลิมพล มีทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน 1 แปลง โดยถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายทั้งสอง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นทายาทและมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนายสวัสดิ์ เฉลิมพล หรือนายนง อ่อนน้อม โดยเป็นน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับนายสวัสดิ์ ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2543 เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1060/2543 ผู้ร้องมิได้มีส่วนได้เสียหรือเป็นทายาทโดยธรรมหรือญาติของนายสวัสดิ์ ทรัพย์มรดกที่นายสวัสดิ์มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับนางกาบจันทร์ทั้งหมดต้องตกทอดได้แก่พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนายสวัสดิ์ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกของนายสวัสดิ์ เพราะนายสวัสดิ์ไม่มีบุตร ทั้งบิดามารดานายสวัสดิ์ก็ถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว ส่วนนางกาบจันทร์ภริยาของนายสวัสดิ์ถึงแก่กรรมไปก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกในส่วนที่เป็นทรัพย์มรดกของนายสวัสดิ์ผู้ตาย ขอให้ยกคำร้องขอและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกในส่วนที่เป็นทรัพย์มรดกของนายสวัสดิ์ผู้ตาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์ เฉลิมพล และนางกาบจันทร์ เฉลิมพล ผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาผู้คัดค้านว่า การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้คัดค้านเลื่อนคดีและงดสืบพยานผู้คัดค้านชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอจัดการมรดกนายสวัสดิ์ เฉลิมพล และนางกาบจันทร์ เฉลิมพล ศาลชั้นต้นได้ประกาศและนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 14 ธันวาคม 2543 ซึ่งผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านในส่วนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์หลังจากไต่สวนพยานของผู้ร้องแล้ว ผู้คัดค้านได้ขอเลื่อนการสืบพยานผู้คัดค้าน ซึ่งศาลได้อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานตามคำขอ แต่ครั้นถึงวันนัดผู้คัดค้านได้ขอเลื่อนการสืบพยานอีกอ้างว่า เอกสารยังไม่พร้อม ศาลอนุญาตให้ผู้คัดค้านเลื่อนการสืบพยานตามขอ ครั้นถึงวันนัดผู้คัดค้านขอเลื่อนคดีอีกหรือของดการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอคดีที่ผู้คัดค้านร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลแพ่งและศาลจังหวัดปราจีนบุรี ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจะเห็นได้ว่าศาลให้โอกาสแก่ผู้คัดค้านในการนำพยานมาสืบหักล้างคำร้องของผู้ร้องอย่างพอเพียงแล้ว ผู้คัดค้านกลับขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ ทั้งผู้คัดค้านไม่ได้เตรียมพยานมาสืบตามที่แถลงไว้ต่อศาลแต่อย่างใด พฤติการณ์ของผู้คัดค้านจึงเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้คัดค้านเลื่อนคดีหรือรอคดีไว้จึงชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาวินิจฉัยประการต่อไปมีว่า ผู้ร้องมีสิทธิขอจัดการมรดกนายสวัสดิ์ เฉลิมพล ผู้ตายหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 บัญญัติว่าทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ดังนั้น ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1713 ดังกล่าวหาจำต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายโดยเป็นทายาทโดยตรงของผู้ตายทุกกรณีไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องเป็นผู้รับมรดกนางกาบจันทร์แทนที่นายชื่นบิดาผู้ร้อง และหลังจากที่นางกาบจันทร์ถึงแก่ความตาย ที่ดินโฉนดเลขที่ 9783 ยังมิได้จัดแบ่งตามกรรมสิทธิ์แห่งเจ้าของรวม ดังนั้น ผู้ร้องจึงมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่ง ถือว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินโฉนดเลขที่ 9783 อันเป็นทรัพย์มรดกของนายสวัสดิ์ตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนายสวัสดิ์คือที่ดินโฉนดเลขที่ 9783 ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์ด้วยนั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้คัดค้านข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน แต่เพื่อมิให้เป็นการเสียหาย ศาลเห็นสมควรวางเงื่อนไขในคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสวัสดิ์ผู้ตายด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ผู้ร้องมีอำนาจจัดการมรดกของนายสวัสดิ์ เฉลิมพล ผู้ตาย เฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 9783 โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าถ้าจะจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันให้แก่บุคคลที่มิใช่ทายาทของนายสวัสดิ์ เฉลิมพล ที่มีสิทธิรับมรดกหรือดำเนินการแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินดังกล่าวจะต้องขออนุญาตจากศาลก่อนเป็นกรณีไป นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5

Share