คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การกระทำของจำเลยซึ่งเพียงแต่ไปคัดค้านคำร้องขอของด.ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งด. เป็นผู้จัดการมรดกของค. เพื่อที่จะไปดำเนินการโอนที่ดินให้แก่โจทก์เท่านั้นยังมิได้เป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์หรือแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์จึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นสามีนางเหรียญ ดอนเตาเหล็กหรือเจริญสุข โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นบุตรโจทก์ที่ 1 กับนางเหรียญ เมื่อ พ.ศ. 2506 หลังจากโจทก์ที่ 1 แต่งงานกับนางเหรียญแล้วนายเครื่องและนางดา ดอนเตาเหล็กบิดามารดานางเหรียญยกที่ดินสองแปลง ซึ่งต่อมาได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1846 และ 132ตำบลโคกสะอาด อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ให้แก่นางเหรียญซึ่งโจทก์ที่ 1 และนางเหรียญครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินทั้งสองแปลงตลอดมาจนนางเหรียญถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2525โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 6 เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวสืบต่อจากนางเหรียญร่วมกับโจทก์ที่ 1 ต่อมาโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้ง นายเครื่องถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2521 ครั้นพ.ศ. 2531นางดาประสงค์จะโอนที่ดินทั้งแปลงให้แก่โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 6จึงยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายเครื่อง จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของนายเครื่องซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากนายเครื่องยกที่ดินโดยสละการครอบครองที่ดินทั้งสองแปลงให้แก่นางเหรียญแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งและรบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์ทั้งหก ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์ทั้งหกเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องและให้โจทก์ทั้งหกไปจดทะเบียนเปลี่ยนเจ้าของที่ดินพิพาททั้งสองแปลงจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ทั้งหกต่อไป
จำเลยให้การว่า การกระทำของจำเลยดังที่โจทก์ทั้งหกฟ้องไม่เป็นการโต้แย้งหรือรบกวนการครอบครองในที่ดินพิพาทโจทก์ทั้งหกไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งหกอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษายืน โจทก์ทั้งหกฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ทั้งหกว่า การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งหกหรือไม่ โจทก์ทั้งหกบรรยายฟ้องว่า เดิมที่ดินพิพาทเป็นของนายเครื่องและนางดาดอนตาเหล็ก ซึ่งเป็นบิดามารดาของจำเลยกับนางเหรียญ ดอนตาเหล็กนางเหรียญเป็นภริยาของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นบุตรของนางเหรียญกับโจทก์ที่ 1 นายเครื่องยกที่ดินพิพาทให้นางเหรียญต่อมานายเครื่องและนายเหรียญถึงแก่กรรมโจทก์ทั้งหกร่วมกันครอบครองและทำประโยชน์ที่ดินพิพาทตลอดมาจนกระทั่งในพ.ศ. 2531 นางดาไปยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งนางดาเป็นผู้จัดการมรดกของนายเครื่องเพื่อจะจดทะเบียนโอนชื่อเจ้าของที่ดินพิพาทในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) จากนายเครื่องมาเป็นที่โจทก์ทั้งหก แต่จำเลยไปคัดค้านอ้างว่าจำเลยเป็นบุตรของนายเครื่องและเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก ถือว่าจำเลยโต้แย้งและรบกวนการครอบครองของโจทก์ทั้งหก เพื่อจะแย่งการครอบครองที่ดินพิพาท ขอให้พิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งหกห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้อง เห็นว่า การกระทำของจำเลยตามคำฟ้องซึ่งเพียงแต่ไปคัดค้านคำร้องขอของนางดาที่ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งนางดาเป็นผู้จัดการมรดกของนายเครื่องเท่านั้น ยังมิได้เป็นการรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ทั้งหกหรือแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์ทั้งหก อันจะเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งหกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์ทั้งหกจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของโจทก์ทั้งหกข้ออื่น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน

Share