คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7254/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องของโจทก์บรรยายมาเป็นภาษาไทยชัดแจ้งแล้วเกี่ยวกับการซื้อเครื่องปรับสภาพน้ำการติดตั้งและการชำระราคาจำเลยย่อมเข้าใจได้ดีกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องส่งเอกสารมาท้ายคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา18โจทก์อาจอ้างเอกสารเป็นพยานเมื่อจำเลยปฏิเสธและมีการสืบพยานแม้โจทก์จะไม่ได้ทำคำแปลเอกสารท้ายฟ้องเป็นภาษาไทยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา46วรรคสามบัญญัติไว้แต่เพียงว่าให้ศาลสั่งให้คู่ความที่ส่งทำคำแปลแนบไว้กับต้นฉบับเท่านั้นฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม จำเลยซื้อเครื่องปรับสภาพน้ำจากโจทก์และชำระราคาบางส่วนเมื่อโจทก์ติดตั้งให้จำเลยเรียบร้อยแล้วโดยไม่ได้ผิดสัญญาจำเลยมีหน้าที่ต้องชำระเงินส่วนที่เหลือให้แก่โจทก์ส่วนเครื่องปรับสภาพน้ำที่โจทก์ติดตั้งให้นั้นมีความชำรุดบกพร่องซึ่งโจทก์ต้องแก้ไขให้ตามสัญญานั้นเป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องดำเนินการตามข้อสัญญาที่มีอยู่อีกส่วนหนึ่งจะอ้างมาเป็นเหตุไม่ยอมชำระเงินให้โจทก์หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้สั่งซื้อเครื่องปรับสภาพน้ำและอุปกรณ์พร้อมการติดตั้งจากโจทก์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,075,000 บาทโจทก์ได้ส่งสินค้าพร้อมทำการติดตั้งให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงกำหนดชำระตามสัญญาซื้อขายจำเลยได้ชำระค่าสินค้าให้โจทก์บางส่วนเป็นเงิน 1,867,500 บาท ยังค้างชำระอยู่อีกเป็นเงิน207,500 บาท โจทก์ได้ให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามจำเลยได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว แต่เพิกเฉย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 218,713 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวน207,500 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเอกสารท้ายฟ้องเป็นภาษาต่างประเทศ โจทก์ผิดสัญญาไม่ได้ติดตั้งปั๊มคลอรีนให้เสร็จสมบูรณ์ใช้งานได้ ติดตั้งมอเตอร์สูบน้ำบนแท่นซีเมนต์ที่ไม่ได้ตรวจสอบความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน เป็นเหตุให้มอเตอร์สูบน้ำแตกร้าวใช้งานไม่ได้จำเลยต้องว่าจ้างบุคคลอื่นติดตั้งปั๊มคลอรีน เปลี่ยนมอเตอร์สูบน้ำใหม่และก่อสร้างแท่นวางมอเตอร์ใหม่ โจทก์ไม่ยอมมอบแบบแปลนการติดตั้ง การเดินกระแสไฟฟ้า การวางสายไฟฟ้าให้จำเลย จำเลยต้องว่าจ้างบุคคลอื่นเดิมสายไฟฟ้าใหม่ รวมทุกรายการแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 210,000 บาท จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ชำระให้โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน207,500 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ไม่โต้เถียงกันฟังเป็นยุติว่าจำเลยได้ทำสัญญาซื้อเครื่องปรับสภาพน้ำและอุปกรณ์พร้อมกับให้โจทก์ติดตั้งจนแล้วเสร็จ รวมราคา 2,075,000 บาท โจทก์ได้ติดตั้งเครื่องปรับสภาพน้ำให้จำเลยเสร็จแล้ว จำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์เป็นเงิน 1,767,500 บาท คงค้างชำระอยู่เป็นเงิน 207,500 บาท โจทก์ทวงถาม แต่จำเลยไม่ชำระ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในข้อแรกว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าคำฟ้องของโจทก์ได้แนบสำเนาเอกสารมาท้ายคำฟ้องหมายเลข 4 และหมายเลข 5 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องเป็นภาษาต่างประเทศ โดยไม่ได้ทำคำแปลเป็นภาษาไทยมาด้วย ทำให้จำเลยไม่เข้าใจคำฟ้องของโจทก์ จึงเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุมและไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า คำฟ้องของโจทก์บรรยายมาชัดแจ้งว่า จำเลยได้ทำสัญญาซื้อเครื่องปรับสภาพน้ำและอุปกรณ์พร้อมกับการติดตั้งให้แล้วเสร็จรวมราคา 2,075,000 บาทเมื่อโจทก์ติดตั้งแล้วเสร็จจำเลยชำระราคาให้เป็นเงิน 1,867,500 บาทยังค้างชำระอยู่เป็นเงิน 207,500 บาท โจทก์ทวงถาม แต่จำเลยไม่ชำระ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวบรรยายเป็นภาษาไทย จำเลยย่อมจะเข้าใจคำฟ้องของโจทก์ได้ดี ทั้งคำฟ้องของโจทก์กฎหมายก็ไม่ได้บังคับให้ต้องส่งเอกสารมาท้ายคำฟ้องตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 แต่อย่างใดโจทก์อาจอ้างเอกสารดังกล่าวเป็นพยานได้เมื่อจำเลยปฏิเสธและมีการสืบพยาน แม้โจทก์จะไม่ได้ทำคำแปลเอกสารท้ายฟ้องเป็นภาษาไทยมาด้วย แต่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 46 วรรคสามก็บัญญัติไว้แต่เพียงว่า ให้ศาลสั่งให้คู่ความฝ่ายที่ส่งให้ทำคำแปลแนบไว้กับต้นฉบับเท่านั้น ดังนั้นคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุมและชอบด้วยกฎหมายแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาต่อมาว่า สัญญาที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันนั้นย่อมจะมีผลบังคับทั้งสองฝ่าย จึงต้องพิจารณาความรับผิดของโจทก์ด้วยเป็นทำนองว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ไม่แก้ไขความชำรุดบกพร่องของเครื่องปรับสภาพน้ำ จำเลยจึงไม่ต้องชำระเงินส่วนที่เหลือนั้นเห็นว่า โจทก์นำสืบได้ว่าโจทก์ได้ติดตั้งเครื่องปรับสภาพน้ำให้จำเลยเรียบร้อยแล้ว จำเลยไม่ได้นำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่นต้องรับฟังว่าโจทก์ได้ติดตั้งเครื่องปรับสภาพน้ำให้จำเลยเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยไม่ได้ผิดสัญญา จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระเงินส่วนที่เหลือให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ส่วนที่ว่าเครื่องปรับสภาพน้ำที่โจทก์ติดตั้งให้นั้นมีความชำรุดบกพร่อง โจทก์ต้องแก้ไขให้จำเลยตามสัญญานั้นเป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องดำเนินการตามข้อสัญญาที่มีอยู่อีกส่วนหนึ่งจะอ้างมาเป็นเหตุไม่ยอมชำระเงินให้โจทก์หาได้ไม่ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดีนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share