คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6143/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การไต่สวนคำร้องของจำเลยซึ่งอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมนั้น เป็นเพียงการไต่สวนเพื่อให้ทราบว่าโจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความดังที่จำเลยกล่าวอ้างหรือไม่ เท่านั้น พยานหลักฐานในชั้นนี้จึงไม่ใช่พยานหลักฐานที่สนับสนุนข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นแห่งคดีที่พิพาทกันตามคำฟ้อง และคำให้การ จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันไต่สวนไม่น้อยกว่าสามวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก
ในระหว่างสืบพยานจำเลยตามคำร้องของจำเลยที่กล่าวหาว่าโจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาแม้แต่ครั้งเดียว ทนายโจทก์เพิ่งขอเลื่อนการพิจารณาครั้งแรกในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในชั้นไต่สวนคำร้องดังกล่าวโดยอ้าง ว่าทนายโจทก์ป่วยและมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วยถือได้ว่าทนายโจทก์มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนและตามพฤติการณ์ไม่ปรากฏว่าโจท์ประวิงคดี

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนเครื่องหมายการค้า กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ ในวันเดียวกันโจทก์ทั้งสองกับจำเลยที่ ๑ ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลพิพากษาตามยอมให้ต่อมาจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและให้โจทก์ทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ ๑ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ทั้งสองยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ นำสืบก่อน เสร็จแล้ว ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลทนายโจทก์ให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและยื่นบัญชีพยานโจทก์ ทนายจำเลยแถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับบัญชีพยานของโจทก์ และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบ ให้งดสืบพยานโจทก์แล้วินิจฉัยว่าโจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงมีคำสั่งให้โจทก์ทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ ๑ และปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นเลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์และรับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้ดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไป แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า กรณีนี้โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานจำเลยที่ ๑ ชั้นไต่สวนคำร้องไม่น้อยกว่าสามวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๔ วรรคแรกนั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์เห็นว่าการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ ๑ ซึ่งอ้างว่าโจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นเพียงการไต่สวนเพื่อให้ทราบว่า โจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ ๙ ดังจำเลยที่ ๑ กล่างอ้างหรือไม่เท่านั้น ดังนั้น พยานหลักฐานในชั้นนี้จึงไม่ใช่พยานหลักฐานที่สนับสนุนข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นแห่งคดีที่พิพาทกันตามคำฟ้องและ คำให้การโจทก์ทั้งสองจึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันไต่สวนไม่น้อยกว่าสามวันตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ วรรคแรก
สำหรับฎีกาของจำลยที่ ๑ ซึ่งอ้างว่าโจทก์ประวิงคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าในระหว่างสืบพยานจำเลยที่ ๑ ตามคำร้องของจำเลยที่ ๑ ที่กล่าวหาว่าโจทก์ทั้งสองผิดสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาแม้แต่ครั้งเดียว ทนายโจทก์เพิ่งขอเลื่อนการพิจารณาครั้งแรกในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในชั้นไต่สวนคำร้องดังกล่าว โดยอ้างว่าทนายโจทก์ป่วยและมีใบรับรองแพทย์มาแสดงด้วย เช่นนี้ ถือได้ว่าทนายโจทก์มีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อน ตามพฤติการณ์ไม่ปรากฏว่าโจทก์ประวิงคดีในชั้นนี้แต่ประการใด ที่ศาลอุทธรณ์ให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปนั้น ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษายืนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่

Share