แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามคำร้องขอที่ผู้ร้องอ้างว่า เจ้ามรดกยังมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันอีก 3 คน แต่อพยพไปอยู่ต่างจังหวัดไม่ทราบที่อยู่แน่นอนนั้น ถือไม่ได้ว่าทายาทโดยธรรมดังกล่าวของเจ้ามรดกสูญหายไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 (1) ทั้งตามคำร้องของผู้ร้องและคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก ก็ไม่ได้กล่าวถึงเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกมาด้วย เป็นกรณีที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างอ้างว่าตนมีสิทธิในทรัพย์มรดกดีกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ชอบที่จะเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกจากฝ่ายที่โต้แย้งโดยตรงอย่างคดีมีข้อพิพาท กรณีของผู้ร้องและผู้คัดค้านจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1713(1)(2) ที่จะใช้สิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นหลานของนายหลง นางกา พันธุ์เทศ นายหลง นางกา ไม่มีบุตรด้วยกัน นายหลงมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน๓ คน ระหว่างนายหลง นางกา มีชีวิตอยู่มีที่นา ๑ แปลง ที่สวน ๑ แปลงบ้าน ๑ หลัง และยุ้งข้าวอีก ๑ หลัง ต่อมานายหลงนางกายกที่นาบางส่วนกับที่สวนทั้งแปลงพร้อมบ้านและยุ้งข้าวให้ผู้ร้องเมื่อนายหลง นางกาตายที่นาส่วนที่เหลือจึงตกได้แก่ทายาท ทรัพย์มรดกดังกล่าวทายาทยังมิได้แบ่งปันกันเพราะพี่น้องของนายหลงดังกล่าวแล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดไม่ทราบที่อยู่แน่นอนผู้ร้องจึงขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายหลง นางกาเพื่อรอแบ่งปันแก่ทายาท
ผู้คัดค้านคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรของนายหลง นางกา ผู้ร้องมิใช่หลานไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก หลังจากนายหลงนางกาตายแล้ว ผู้คัดค้านไปยื่นคำร้องขอรับโอนมรดก เรื่องอยู่ระหว่างกำหนดเวลาประกาศของทางราชการ ผู้ร้องถือโอกาสมายื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดก ขอให้ศาลยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายหลง นางกา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า ทั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างก็มิใช่ทายาทของนายหลงนางกา จึงไม่มีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดก พิพากษายกคำร้องและคำคัดค้าน
ผู้ร้องและผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ร้อง หากพี่น้องของนายหลงซึ่งมีสิทธิรับมรดกตายโดยไม่ปรากฏทายาท ผู้ร้องก็มีสิทธิรับมรดกของนายหลงแทนที่ดีกว่าผู้คัดค้าน พิพากษาแก้เป็นว่าให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายหลงนางกา พันธุ์เทศ ให้ยกคำคัดค้าน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องของผู้ร้องอ้างว่าเจ้ามรดกยกที่นาบางส่วนกับที่สวนทั้งแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้ผู้ร้อง ที่นาที่เหลือผู้ร้องได้ครอบครองแทนทายาทอื่นเพื่อแบ่งปันกัน โดยอ้างว่านายหลงเจ้ามรดกที่พี่น้องร่วมบิดามารดาอีก ๓ คน แต่ไม่ทราบที่อยู่แน่นอนเพราะย้ายไปอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ เห็นว่ากรณีตามคำร้องยังถือไม่ได้ว่า ทายาทโดยธรรมดังกล่าวของนายหลงได้สูญหายไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓(๑) ทั้งไม่ได้กล่าวว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกอย่างไร ส่วนคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านที่ขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้นั้นก็กล่าวแต่เพียงว่าผู้คัดค้านและสามีได้ครอบครองทรัพย์มรดกอย่างเจ้าของต่อเนื่องตลอดมาผู้ร้องไม่ได้เป็นทายาทของเจ้ามรดกไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ผู้คัดค้านไม่ได้กล่าวเช่นเดียวกันว่ามีเหตุขัดข้องในการจัดการทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกอย่างใดเป็นเรื่องที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างโต้เถียงกันว่า ฝ่ายใดจะมีสิทธิในทรัพย์มรดกเท่านั้น เมื่อฝ่ายใดเห็นว่าตนถูกอีกฝ่ายโต้แย้งสิทธิในทรัพย์มรดกรายนี้ก็ชอบที่จะเสนอคดีของตนเรียกร้องเอาทรัพย์มรดกจากฝ่ายที่โต้แย้งโดยตรงอย่างคดีมีข้อพิพาท ไม่จำเป็นต้องตั้งผู้จัดการมรดกเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่กองมรดกแต่ประการใด เห็นว่ากรณีของผู้ร้องและผู้คัดค้านไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓(๑),(๒) ที่จะได้สิทธิร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๕๕ ได้ ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัย
พิพากษาแก้ให้ยกคำร้องของผู้ร้องเสียด้วย