แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยว่า ให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาวางศาลภายในกำหนด 7 วันย่อมหมายถึงให้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ครั้นวันครบกำหนดจำเลยคงนำแต่ค่าฤชาธรรมเนียมที่ใช้แทนโจทก์มาวางศาลเท่านั้นมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ถือได้ว่าจำเลยทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2)
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 29,765.86 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางภายใน7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์คำสั่งโดยแจ้งคำสั่งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 วันที่ 25 กุมภาพันธ์2529 จำเลยทั้งสองแถลงขอวางเงินค่าธรรมเนียมตามคำสั่ง วันที่26 กุมภาพันธ์ 2529 ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งจำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลเพียงอย่างเดียวในวันสุดท้ายที่ศาลกำหนดโดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล นอกจากจำเลยทั้งสองจะไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายแล้ว จำเลยยังเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้เพื่อการนั้น ถือได้ว่าเป็นการทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสองได้พยายามปฏิบัติตามคำสั่งศาลแล้ว โดยวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมไว้ก่อนแล้ว ต่อมาได้หาหลักประกันมาวางศาลทันทีที่หาได้ ไม่ได้จงใจฝ่าฝืนคำสั่งหรือเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้เพื่อการนั้น ถือไม่ได้ว่าเป็นการทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 บัญญัติว่าถ้าศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบวันนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งซึ่งเป็นบทบังคับให้จำเลยทั้งสองซึ่งอุทธรณ์คำสั่งต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลพร้อมกับยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้น แต่จำเลยทั้งสองคนชำระแต่ค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างเดียว ไม่ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ศาลชั้นต้นจึงได้มีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาวางศาลภายในกำหนด 7 วันด้วย มิฉะนั้นให้ถือว่าทิ้งอุทธรณ์คำสั่ง แจ้งให้จำเลยทราบ ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นนี้แม้จะสั่งเพียงสั้น ๆ ว่าให้จำเลยทั้งสองนำค่าฤชาธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาวางศาล ก็ย่อมหมายถึงให้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามที่บังคับไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234ทนายจำเลยทั้งสองทราบคำสั่งศาลแล้ว โดยนางสาวปาริชาติรับแทนเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 ตามใบรับหมายแจ้งคำสั่ง สารบบอันดับ 72 แผ่นที่ 6 ซึ่งครบกำหนดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2529ในวันครบกำหนด จำเลยทั้งสองคงนำแต่ค่าฤชาธรรมเนียมที่ใช้แทนโจทก์จำนวน 2,437.50 บาท มาวางศาลเท่านั้น มิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือประกันให้ไว้ต่อศาล ถือได้ว่า จำเลยทั้งสองทิ้งคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)แล้ว เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยทั้งสองจึงขอวางหลักประกันในวันรุ่งขึ้นซึ่งเลยกำหนด 7 วันแล้ว ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยทั้งสองต่อไป”
พิพากษายืน