คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้วจึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตาย ได้ขอโอนรับมรดกที่พิพาท และโอนขายให้จำเลยที่ 2 โดยไม่สุจริต จึงขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์หรือไม่แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริตพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่าสัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์แล้วผู้ตายจึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตายได้ขอโอนรับมรดก แล้วขายให้จำเลยที่ 2 ๆ รับซื้อไปโดยไม่สุจริตจึงขอให้ถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนดที่พิพาท

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องทุกประการ พิพากษาให้ถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้วหรือไม่ แต่ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์สืบไม่สมข้อที่ว่า จำเลยที่ 2 ได้รับซื้อไปโดยไม่สุจริต จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกาในเรื่องที่ว่า โจทก์ได้สืบสมฟ้องแล้วว่า จำเลยที่ 2 รับซื้อไปโดยไม่สุจริต

ศาลฎีกาได้กลับไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงในเรื่องที่ว่า ผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองมาจนได้กรรมสิทธิ์แล้วหรือไม่ แล้วฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายหาได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์มาไม่โจทก์จึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินรายนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์แล้ว ที่ดินย่อมตกเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นทายาท ส่วนข้อที่ว่าจำเลยที่ 2 รับซื้อไว้โดยสุจริตหรือไม่ เมื่อฟังว่า จำเลยที่ 1 มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินรายนี้โดยชอบแล้ว ก็ไม่มีปัญหาในข้อนี้ต่อไป

พิพากษายืน

Share