คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถึงแม้ว่าจำเลยจะกระทำผิดหลายกะทงก็ตาม ศาลจะใช้ดุลยพินิจลงโทษจำเลยแต่เพียงกะทงเดียวก็ได้ไม่จำต้องวางโทษเรียงกะทงเสมอไป
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.40,218
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.248
อัยยการฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษฐานปลอมหนังสือและยักยอกกับขอให้คืนเงิน 318 บาท แก่รัฐบาลด้วย ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 2 กะทง 6 ปี และให้ใช้เงิน 318 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุกจำเลยกะทงเดียว 3 ปี ใช้เงิน 32 บาทดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์แก้เล็กน้อยโจทก์ฎีกาเรื่องจำนวนเงินในข้อเท็จจริงมิได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๑๓๑ สองกะทง ๆ ละ ๑ ปี และตาม ม.๒๓๐, ๕ ปี รวม ๓ กะทง ๗ ปี ลดตาม ม.๕๙ หนึ่งปี คงจำคุก ๖ ปี และให้ใช้เงิน ๓๑๘ บาทแก่รัฐบาล
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ละเมิดกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษจำเลยตามบทหนักคือ ม.๒๓๐ จำคุก ๕ ปี ลดตาม ม.๕๙ สองปี คงจำคุก ๓ ปี และแก้ให้ใช้เงินเพียง ๓๒ บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าคดีนี้โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกากล่าวถึงจำนวนเงินที่จำเลยต้องชำระแก่รัฐบาลเพราะการที่จำเลยได้ยักยอกเงินมากน้อยเท่าใดเป็นข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์แก้จำนวนเงินเป็นการแก้เล็กน้อย ส่วนที่ว่าศาลควรลงโทษจำเลยเรียงกะทงความผิดนั้น เห็นว่าแม้ถ้าจำเลยมีความผิดหลายกะทงก็ดี ก็อยู่ในดุลยพินิจของศาลเอง ตาม ม.๗๑ มิได้บัญญัติให้ศาลต้องพิพากษาเรียงกะทงเสมอไป เรื่องนี้ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดโทษจำเลยกะทงเดียวชอบแล้ว ยืนตาม

Share