คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอให้งดการบังคับคดีเพราะได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกัน หากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ ซึ่งต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางศาล เป็นเงื่อนไขในการขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว โดยโจทก์ยินยอม ต่อมาโจทก์กลับขอให้บังคับคดีเอาแก่ธนาคารในฐานะผู้ค้ำประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 293 คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงถึงที่สุ่ดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 วรรคท้าย ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยตลอดไปถึงคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าซื้อหุ้นแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์และฎีกา ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน ในชั้นฎีกาจำเลยไม่หาประกันมาวางศาลเพื่อทุเลาการบังคับคดีตามคำสั่งของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นจึงดำเนินการบังคับคดีโดยได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๘ ว่า จำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์กับบุคคลอื่นอีก ๓ คนที่ศาลนี้เรียกค่าเสียหายเนื่องจากการผิดสัญญาขายหุ้นเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยขอวางเงินสดเป็นประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษา ๒๔๐,๐๐๐ บาท โดยจำเลยไม่ยอมรับผิดตามฟ้อง และยังไม่ให้โจทก์รับเงินไป ขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอฟังผลคดีนี้ในชั้นศาลฎีกา และรอฟังผลคดีเครื่องใหม่ หากจำเลยชนะคดีเรื่องใหม่ก็จะไม่ต้องมีการบังคับคดีนี้ เพราะอาจหักกลบลบหนี้กันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓
วันนัดพร้อม โจทก์จำเลยตกลงกันในเรื่องหลักประกัน จำเลยจะให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ โจทก์ยอมให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ วันนัดพิจารณาหลักประกัน จำเลยเสนอหนังสือสัญญาค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ต่อศาล โจทก์แถลงพอใจในหลักประกัน และยอมให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับหนังสือค้ำประกันไว้
ต่อมาวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๑๘ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาและออกคำบังคับจำเลย จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแจ้งธนาคารถึงเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาค้ำประกันมาศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว เพราะได้กลับฟ้องโจทก์เป็นจำเลยจึงให้นัดสอบถาม
ในวันนัดสอบถาม จำเลยยื่นคำแถลงว่า ศาลอนุญาตให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ มิใช่เป็นการทุเลาการบังคับคดี คดีหมายเลขดำที่ ๓๓๓/๒๕๑๘ อยู่ระหว่างสืบพยาน โจทก์ยังไม่มีสิทธิดำเนินการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกร้องของโจทก์ และงดการบังคับคดีตามที่จำเลยร้องขอจนกว่าคดีหมายเลขดำที่ ๓๓๓/๒๕๑๘ จะถึงที่สุด
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นไม่สั่งรับ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตามคำร้องของโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๘ ขอให้งดการบังคับคดีเพราะเหตุที่จำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกัน ซึ่งศาลยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาด และหากจำเลยเป็นฝ่ายชนะก็สามารถหักกลบลบหนี้กันได้ คำร้องของจำเลยเป็นการขอให้งดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ ซึ่งต่อมาจำเลยได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด มาวางศาล เป็นเงื่อนไขในการขอให้งดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว โดยโจทก์ยินยอม แต่ต่อมาโจทก์กลับขอให้บังคับคดีเอาแก่ธนาคารในฐานะผู้ค้ำประกัน ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ และให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ คำสั่งศาลชั้นต้นจึงถึงที่สุ่ดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ วรรคท้าย ที่ศาลอุทธรณ์สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และมีคำพิพากษาเป็นการไม่ชอบ ทั้งจำเลยไม่มีสิทธิฎีกาต่อมา
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลยและให้ยกคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลอุทธรณ์รวมทั้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสีย

Share